ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนตั้ง "สมมาตร์ มีศิลป์" ผอ.องค์การค้า ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2555 ชี้ขาดคุณสมบัติการสรรหาตั้งแต่ต้น
วันนี้ (18 ก.พ.) นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ หัวหน้าคณะทำงานกำหนดแนวทางการประเมินประสิทธิภาพและติดตามการดำเนินงานขององค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษา เพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งนายสมมาตร์ มีศิลป์ ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.องค์การค้าฯ ในคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2555 และให้มีผลย้อนหลังนับแต่วันที่มีประกาศแต่งตั้ง โดยตนได้ขอให้ฝ่ายกฎหมายของ สกสค.ไปศึกษารายละเอียดคำสั่งศาลปกครอง ว่า มีอะไรบ้างที่ต้องดำเนินการ ซึ่งโดยสรุปเห็นได้ชัดว่า กระบวนการทำงาน และกระบวนการสรรหาบุคคล มาดำรงตำแหน่ง ผอ.องค์การค้าฯ มีข้อบกพร่อง และคำพิพากษาของศาลปกครองกลางก็มีความชัดเจน แต่ขณะนี้คงยังตอบไม่ได้ ว่าจะดำเนินการอะไรกับใครบ้าง ส่วนนายสมมาตร์ เองก็ไม่ได้มีการประสานเข้ามาพูดคุยอะไร และถือว่ามติของคณะกรรมการสกสค.ที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ที่ให้ยกเลิกสัญญาจ้างนายสมมาตร์ครั้งล่าสุดก็เป็นอันสิ้นสุดแล้ว
ด้าน นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า ตนได้หารือกับฝ่ายกฎหมาย และเสนอแนวทางการดำเนินการให้ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาแล้ว เบื้องต้นคงต้องยึดตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง มาตรา 19 ระบุว่า ถ้าปรากฏภายหลังว่า เจ้าหน้าที่หรือกรรมการในคณะกรรมการที่มีอำนาจพิจารณาทางปกครองใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามหรือการแต่งตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นเหตุให้ผู้นั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่งเช่นว่านี้ ไม่กระทบกระเทือนถึงการใดที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติไปตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งครอบคลุมกรณีคำสั่งศาลปกครองดังกล่าว ดังนั้นอาจจะไม่มีการดำเนินการอะไร ส่วนคดีความที่ยังมีอยู่ระหว่างสกสค. และนายสมมาตร์ก็ดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษา กรณีมีผู้ฟ้องร้อง สำนักงานสกสค. คณะกรรมการสรรหา บุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.องค์การค้าฯ และอดีตคณะกรรมการ สกสค. เรื่องคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีการสรรหาและบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.องค์การค้าฯ ซึ่งได้มีการประกาศรายชื่อ นายสมมาตร์ มีศิลป์ เป็น 1 ใน 3 ผู้เข้ารับการคัดเลือกที่มีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2555 โดยผู้ฟ้องเห็นว่า นายสมมาตร์ เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครเข้ารับการสรรหาตั้งแต่ต้น เนื่องจากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา มีคำสั่งที่ 15/2551 เลิกสัญญาจ้างนายสมมาตร์ จากตำแหน่ง ผอ.องค์การค้าฯ ซึ่งผู้ฟ้องทำหนังสือคัดค้านไปยังคณะกรรมการสรรหาฯ แต่ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ขณะเดียวกันกลับยินยอมให้นายสมมาตร์ เข้าแสดงวิสัยทัศน์ โดยผู้ฟ้องได้ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่ง โดยสรุป คือ ขอให้เพิกถอนประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็น ผอ.องค์การค้าฯ คัดเลือกนายสมมาตร์เป็นผอ.องค์การค้าฯ ลงวันที่ 12 ก.ย.2555 ระงับสัญญาจ้างนายสมมาตร์ โดยศาลได้พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า นายสมมาตร์ เป็นผู้ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามในการเข้ารับการสรรหาเป็นผอ.องค์การค้าฯ ดังนั้นการประกาศรายชื่อนายสมมาตร์ เป็นผอ.องค์การค้าฯ ลงวันที่ 12 ก.ย.2555 จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นศาลจึงพิพากษาให้เพิกถอนประกาศ คณะกรรมการสรรหาฯ ประกาศแต่งตั้งดังกล่าว โดยให้มีผลย้อนหลังไปนับแต่วันที่มีประกาศดังกล่าว
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559