“พินิจศักดิ์” เผยเงื่อนไขกู้เงินธนาคารออมสินในโครงการลดภาระหนี้ ต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป ทายาทเซ็นต์ยินยอม ให้ธนาคารออมสินเป็นผู้รับเงินช.พ.ค.ค่าสงเคราะห์รายศพ 7 แสนบาทแทน เพื่อใช้ในการตัดหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ตัดหนี้ไม่มีสิทธิ์จับเงินสด
ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบโครงการลดภาระหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยธนาคารออมสินจะอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ให้กับผู้กู้ที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้เงินกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งทายาทจะได้รับเมื่อสมาชิกถึงแก่กรรม เป็นเงินบำเหน็จตกทอด นำมาขอสินเชื่อใหม่หรือรีไฟแนนซ์ เพื่อลดภาระหนี้หรือปิดบัญชีที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้น
วันนี้ (12 ก.พ.) นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวว่า เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเบื้องต้นทางธนาคารออมสินได้กำหนดไว้ว่า
- ครูต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป
- ระยะเวลากู้ 20 ปี ทั้งนี้
- อายุผู้กู้และอายุสัญญากู้ จะต้องมีอายุรวมไม่เกิน 75 ปี เช่น ถ้าอายุ 65 ปีก็จะเหลือระยะเวลากู้ 10 ปีเป็นต้น
- ที่สำคัญทายาทต้องเซ็นต์ยินยอมให้ธนาคารออมสินรับเงินค่าสงเคราะห์รายศพ ช.พ.ค.ก่อน ครูถึงจะเข้าร่วมโครงการนี้ได้
- ซึ่งรวมถึงครูที่ถูกธนาคารออมสินยื่นโนติสไปแล้วก็สามารถประสานขอเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้เช่นกัน
นายพินิจศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า หลักการของการใช้เงินช.พ.ค.ดังกล่าวนั้น ประมาณการว่า ครูที่เป็นสมาชิก ช.พ.ค.เมื่อเสียชีวิต ทายาทจะได้รับเงิน ช.พ.ค.ประมาณ 950,000 บาท ซึ่งจะนำเงินส่วนนี้ออกมาตั้งเป็นวงเงินรีไฟแนนซ์สำหรับครูแต่ละคนสูงสุดรายละไม่เกิน 700,000 บาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรก 350,000 บาทนำไปชำระเงินต้นที่ครูเป็นหนี้อยู่กับธนาคารออมสิน และส่วนที่เหลืออีก 350,000 บาท ธนาคารออมสินจะใช้เป็นค่าดอกเบี้ยตลอดอายุการกู้ 20 ปีอัตราร้อยละ 4 และเงินที่ต้องจ่ายค่าสมาชิก ช.พ.ค.ระยะ 20 ปี ซึ่ง ปัจจุบันครูต้องจ่ายเงินค่าสมาชิกช.พ.ค.เดือนละประมาณ 600 บาท ดังนั้น เมื่อครูเข้าร่วมโครงการนี้จะถือว่าเป็นการหักเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารออมสินไปแล้ว ซึ่งถ้าครูมีหนี้เงินต้นลดน้อยลงทำให้การผ่อนชำระหนี้ส่วนที่เหลือลดลงไปด้วย แต่หนี้ส่วนที่เหลือก็ยังคงต้องผ่อนชำระในอัตราร้อยละ 6.5-6.7 ต่อเดือนเท่ากับปัจจุบัน สำหรับทายาทนั้นหากครูเข้าร่วมโครงการก็ยังคงได้รับเงินค่าจัดการศพจากช.พ.ค. จำนวน 200,000 บาท และยังมีเงินส่วนต่างเหลืออีกประมาณ 50,000 บาท ก็จะคืนให้แก่ทายาท
“ครูที่เข้าร่วมโครงการลดภาระหนี้กับธนาคารออมสินในครั้งนี้ จะไม่ได้รับเงินสดเลย เป็นเพียงการหักหนี้พร้อมดอกเบี้ยที่มีอยู่กับธนาคารออมสินส่วนหนึ่งเท่านั้น เพื่อให้ครูได้ผ่อนชำระหนี้ส่วนที่เหลือต่อเดือนลดลง ซึ่งจะทำให้ครูมีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น และให้เป็นไปตามความสมัครใจของครูไม่มีการบังคับใดๆ อีกทั้งหากทายาทไม่ยินยอมเซ็นต์ชื่อก็จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้”นายพินิจศักดิ์ กล่าว
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559