'กำจร' ย้ำมาตรการลดภาระหนี้ครู ไม่ใช่ปล่อยกู้ใหม่ ผู้ร่วมโครงการกู้ได้เฉพาะวงเงินเท่าที่เป็นหนี้
11 ก.พ. 59 รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบโครงการลดภาระหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยธนาคารออมสินจะอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ให้กับผู้กู้ที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้เงินกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งทายาทจะได้รับเมื่อสมาชิกถึงแก่กรรม เป็นเงินบำเหน็จตกทอด นำมาขอสินเชื่อใหม่หรือรีไฟแนนซ์ เพื่อลดภาระหนี้หรือปิดบัญชีที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 4% ว่า โครงการดังกล่าวไม่ใช่การปล่อยกู้ให้ครูใหม่ แต่เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนด้านภาระที่ต้องจ่ายหนี้พร้อมกับดอกเบี้ยที่สูงในแต่ละเดือนของครู ซึ่งเดิมอยู่ที่ 6.5 - 7% โดยนำเงินในอนาคต หรือเงินบำเหน็จที่ทายาทจะได้รับเมื่อสมาชิกถึงแก่กรรม มารีไฟแนนซ์ และคำว่ารีไฟแนนซ์ หมายถึง การใช้หนี้ โดยสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ จะกู้ได้เฉพาะวงเงินเท่าที่เป็นหนี้เท่านั้น อาทิ มีหนี้ 100,000 บาท ก็กู้ได้แค่ 100,000 บาท ไม่สามารถกู้ส่วนต่างไปใช้ฟุ่มเฟือยได้
"หลักการของโครงการนี้ เพื่อต้องการลดภาระการชำระดอกเบี้ยให้กับครู เช่น ครูกู้เงินไป 1 ล้านบาท เดิมต้องจ่ายเงินต้นรวมดอกเบี้ย เดือนละประมาณ 7,600 บาท แต่เมื่อเข้าโครงการรีไฟแนนซ์ ก็จ่ายดอกลดลงต่อเดือน อาจเหลือยอดชำระเพียง 5,000 บาท เหตุที่ต้องทำแบบนี้ไม่ลดดอกเบี้ยลงทันที ก็เพราะธนาคารออมสิน ต้องการหลักประกันว่า ถ้าลดดอกเบี้ยไปแล้วยังมีปัญหาครูไม่ใช้หนี้อีก ก็ยังมีเงินอนาคตตรงนี้ประกันหนี้ไว้อยู่"
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ยืนยันว่า โครงการนี้เป็นการลดภาระดอกเบี้ยให้ครูจ่ายหนี้ลดลง ไม่ใช่เป็นมาตรการปลดหนี้ทั้งหมดให้ครู ดังนั้น ครูยังไงต้องใช้หนี้เองทั้งหมด ส่วนครูที่เป็นหนี้ทางอื่น เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ครูมาร่วมโครงการนี้ด้วยหรือไม่นั้น ตรงนี้ยังไม่ได้หารือ แต่เบื้องต้นจะรับเฉพาะผู้ที่กู้ยืมเงินจากธนาคารออมสิน ตามโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.เป็นหลักก่อน
ที่มา คมชัดลึก วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559