เผยปีที่ผ่านมา “แป๊ะเจี๊ยะ”โรงเรียนทั่วไทยสูงกว่า3.5หมื่นล้าน มตช.วอน “ดาว์พงษ์”ปิดช่องโรงเรียนเรียกเงินกินเปล่า
วันนี้(4ก.พ.)นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน (มตช.) เปิดเผยว่า ตามที่นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.ศึกษาธิการ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลกรณีที่ตนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแป๊ะเจี๊ยะเป็นเงินบริจาค และการนำนักเรียนไปเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี รวมถึงประธานองคมนตรีว่าถูกแทรกสิทธิ์ในการเข้าเรียน รวมถึงการเผาหุ่นจำลองตัวโจทก์ ว่าเป็นการสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกหมิ่น ถูกเกลียดชัง เพราะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี เพราะส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาเรียกแป๊ะเจี๊ยะได้ หรือเรียกเงินเพื่อแลกกับการให้เด็กได้เข้าเรียน นั้น เรื่องนี้เป็นคดีมาตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องไปแล้ว แต่โจทก์ก็ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อภายในปีเดียวกันและศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น แต่ตนเพิ่งได้รับหนังสือคำพิพากษาจากศาลในช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.พ.นี้เอง
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ตนเรียกร้องคือ ขอให้กระทรวงศึกษาธิการมีความชัดเจนในนโยบายว่าไม่ให้โรงเรียนเรียกรับเงินเพื่อแลกกับที่นั่ง เพราะปีนั้นมีเด็กที่ถูกแทรกสิทธิ์เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าแป๊ะเจี๊ยะเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในโรงเรียนดัง แต่จากการเรียกร้องครั้งนั้นก็สามารถช่วยให้เด็กอีกนับหมื่นคนสามารถเข้าเรียนได้โดยม่ต้องเสียแป๊ะเจี๊ยะเช่นกัน อย่างไรก็ตามจากคำพิพากษาดังกล่าวได้สร้างความเชื่อมั่นให้ตนมากขึ้นว่า สิ่งที่เรียกร้องเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ดังนั้นเวลานี้ซึ่งใกล้ช่วงรับนักเรียนปีการศึกษาใหม่แล้ว จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ประกาศนโยบายรับนักเรียนที่ชัดเจนว่า ไม่ให้โรงเรียนรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ หรือเงินกินเปล่า ซึ่งเป็นเงินส่วนเกินเพื่อแลกกับที่นั่งเรียน และการรับสมัครต้องประกาศจำนวนรับนักเรียนที่ชัดเจน เมื่อประกาศผลก็ต้องประกาศคะแนนและลำดับที่ด้วยเพื่อป้องกันการแทรกสิทธิ์กรณีมีเด็กสละสิทธิ์ก็ต้องเรียกตัวสำรองตามลำดับ
“แป๊ะเจี๊ยะเป็นเงินส่วนเกินจากค่าบำรุงการศึกษาที่โรงเรียนได้รับงบฯอยู่แล้ว ดังนั้นโรงเรียนจึงไม่ควรรับเงินส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐหรือเอกชน เพราะแป๊ะเจี๊ยะอาจเป็นต้นเหตุของการคอร์รัปชันได้ ทั้งนี้จากการวิจัยของสถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสังคม(สวส.)พบว่า ปีที่ผ่านมามีเงินแป๊ะเจี๊ยะสะพัดกว่า 35,000 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของโรงเรียนรัฐ 20,000 ล้านบาทและโรงเรียนเอกชน 15,000 ล้านบาท”นายมงคลกิตติ์กล่าว
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2559