อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลตรุษจีนแล้ว หลายคนคงเตรียมตัวต้อนรับวันมงคลกันเต็มที่ ซึ่ง หมอช้าง – ทศพร ศรีตุลา ก็มีคำแนะนำดีๆ มาฝากกัน
โดยบอกว่า ตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เพื่อให้เกิดความเฮงรับปีใหม่ ชาวจีนจึงนิยมไหว้ขอพรจากเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิงเอี้ย) ในชั่วยามแรกของปี ซึ่งจะตรงกับคืนวันอาทิตย์ที่ 7 ก.พ. เวลา 23.00 จนถึง 01.00 น. ของวันที่ 8 ก.พ. (บางตำราอาจไหว้เวลา 01.00 – 03.00 น.) ถ้ายกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ ก็คล้ายกับการสวดมนต์ข้ามปีนั่นเอง ปีนี้ผู้ไหว้หันหน้าไปทิศตะวันออกของไหว้หลักๆจะต้องเป็นอาหารเจ ประกอบด้วย
1.องค์ไฉ่ซิงเอี้ย(ถ้ามี)
2.ชุดกระดาษเงิน-ทอง
3.แจกันดอกไม้สด
4.ธูป(3หรือ5ดอก),เทียน1คู่,น้ำชา5ถ้วย
5.ขนมอี้,ผลไม้3-5อย่าง
6.เจฉ่าย(เห็ดหอม,เห็ดหูหนู,ดอกไม้จีน,วุ้นเส้น,ฟองเต้าหู้)
7.กระเป๋าสตางค์หรือของที่เกี่ยวกับการเงิน
เมื่อธูปใกล้หมดดอกให้ลาของไหว้นำมารับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคล
คำถามที่พบบ่อย
1.ของไหว้ทานได้หรือเปล่า-ของไหว้ที่ห้ามทานคือของไหว้สัมภเวสี (ปกติไม่ค่อยได้ไหว้อยู่แล้ว) และของไหว้ที่ลืมเอาเข้าตู้เย็น (เพราะมันจะเสีย)
2.มีหลายคนถามถึงเรื่องฮ่องกงไหว้ไม่ตรงกับเมืองไทย พอดีผมเพิ่งกลับมาจากมาเก๊าและฮ่องกง ได้สอบถามจากที่วัดและศาลเจ้าทุกที่ที่ไปตอบตรงกันหมดคือไหว้กันตามปกติครับ ย้ำอีกครั้ง การไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ นิยมไหว้เพื่อต้อนรับปีใหม่ซึ่งเป็นวันพระจีนพอดี เป็นประเพณีที่นิยมทำช่วงเข้าสู่วันตรุษจีน ถ้าไหว้หลังจากนั้นก็ไม่ใช่การไหว้รับปีใหม่แต่อาจเป็นการไหว้ในโอกาสอื่นๆ หรือคนที่ไม่สะดวกไหว้ อาจสวดมนต์ไหว้พระในช่วงเวลานั้นแทน เพื่อให้เข้าสู่ปีใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคล
*ข้อห้ามมี 2 อย่าง คือ ห้ามคนเกิดปีขาลไหว้คนแรกและห้ามต่อเติมหรือทุบขุดเจาะในเวลานั้นเพราะเป็นฤกษ์ที่ไม่เหมาะกับการทำฮวงจุ้ย
ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก ‘หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา’
ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559