รองนายกฯ หารือ มูลนิธิเมาไม่ขับ หามาตรการเข้มคุมอุบัติเหตุ ปิ๊งไอเดีย ตั้งกรรมการชุดใหม่มาดูแล
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังมูลนิธิเมาไม่ขับ นำคณะ พร้อมผู้พิการจากอุบัติเหตุ เข้าพบว่า ได้หารือเกี่ยวกับผู้ใช้การจราจรและดื่มแอลกอฮอล์ จนทำให้เกิดผลกระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสถิติของผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับภายใน 1 ปี มีประมาณ 1 หมื่นคน และจำนวนไม่ลดลง ดังนั้นมูลนิธิฯ จึงอยากผลักดันให้รัฐบาลสนับสนุน รณรงค์ ลดปัญหาเรื่องการเมาแล้วขับ ซึ่งปัญหาที่แท้จริงเกิดจากการบังคับใช้กฎหมาย จึงต้องร่วมกันหลายฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และได้หารือกันว่าควรจะตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงาน เพื่อดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพราะจากที่ผ่านมาสถิติการจราจรทางบกของไทยอยู่ในอันดับ 2 ของโลก ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ เรื่องดังกล่าวทางรัฐบาลโดยนายกฯได้ให้ความสำคัญ และกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ โดยในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้มีการใช้มาตรการที่เข้มงวดในการดูแลคนที่ดื่มแอลกฮอล์แล้วขับรถ จะเห็นว่ามาตรการที่ยึดรถและคืนในภายหลังก็ได้ผล ทำให้สถิติในการเกิดอุบัติเหตุลดน้อยลง
ด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า ได้เสนอให้รัฐบาลใช้ ม.44 เพื่อยึดรถผู้เมาแล้วขับเหมือนกับที่ใช้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา และรัฐบาลควรกำหนดนโยบายให้ชัดเจนว่าจะลดอุบัติเหตุจำนวนเท่าไหร่ในแต่ละปี นอกจากนี้ยังเสนอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องดังกล่าวโดยตรง มีเป้าหมายที่ชัดเจน การแก้ไขปัญหาเมาแล้วขับควรให้รถทุกคันติดกล้อง เพื่อที่จะดูข้อมูลว่าแต่ละคนขับรถอย่างไร ที่ผ่านมาเรามีปัญหาที่การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้เอาจริงเอาจังเท่าที่ควร แต่จะเน้นเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญ จากนั้นก็ปล่อยปละละเลย ดังนั้นการบังคับใช้กฎหมายต้องมีความต่อเนื่องตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังเสนอรัฐบาลให้จ้างงานคนพิการ เพื่อทำหน้าที่เป็นวิทยากรในการรณรงค์เมาไม่ขับ ตามชุมชน และหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าจะเกิดประโยชน์และสามารถทำได้
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559