“บิ๊กหนุ่ย”สั่งหาข้อมูลเพิ่มเติมสอบวินัยทุจริตครูผู้ช่วย ระบุจะลงโทษใครต้องไม่ผิดตัว อีก 2 สัปดาห์ตัดสินได้แน่ ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู
วันนี้(29 ม.ค.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.)เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน(อ.ก.พ.)สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ทำหน้าที่แทนอ.ก.พ.กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาโทษทางวินัย ดร.ชินภัทร ภูมิรัตนอดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และนายไกร เกษทันอดีตผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) สพฐ. กรณีการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็น หรือมีเหตุพิเศษ ว12 ว่า สพฐ.ในฐานะเลขานุการอ.ก.พ.สพฐ. ได้เสนอข้อมูลตามที่คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ที่นายอภิชาติจีระวุฒิ อดีตที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน สรุปผลการสอบสวนโดยในการประชุมคณะอนุกรรมการฯได้สอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่ฝ่ายเลขานุการยังตอบไม่ได้ใน2 เรื่องสำคัญ คือ ข้อสอบรั่วจริงหรือไม่ และ ความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาเพราะเมื่อได้รับการแจ้งว่า ข้อสอบรั่ว ทำไม่สั่งให้ยุติการสอบ โดยสิ่งที่ สพฐ.นำเสนอยังไม่สามารถเชื่อมโยงกับข้อบังคับตามกฎหมายได้ดังนั้นตนจึงขอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน โดยขอให้ สพฐ.หาข้อมูลเพิ่มเติม และเชิญเลขานุการของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยฯรวมถึงผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)มาร่วมให้ข้อมูลในการประชุมครั้งต่อไปภายในอีก 2สัปดาห์ ซึ่งหากมีข้อมูลเพียงพอที่จะตัดสินโทษได้ ก็จะดำเนินการทันที
“เท่าที่ดูผลสรุปการสอบสวนทางวินัยก็พอมองเห็นพฤติกรรมแล้วแต่ยังไม่เพียงพอที่จะใช้ตัดสินโทษได้ เพราะยังมีบางประเด็นที่ยังไม่สามารถผูกโยงกับข้อกฎหมายได้และมีข้อโต้แย้งในเรื่องอำนาจความรับผิดชอบ ซึ่งดร.ชินภัทรได้ส่งหนังสือชี้แจงโดยบอกว่าไม่มีอำนาจ เป็นอำนาจของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)ซึ่งเป็นผู้จัดสอบ แต่สพท.ก็แย้งว่า ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ซึ่งก็ต้องมาดูรายละเอียดเพิ่มเติมว่าแท้จริงแล้วใครต้องรับผิดชอบ หรือรับผิดชอบทั้งหมดเพราะถ้าเป็นแบบหลังต้องสอบย้อนหลังกันอีกยาว ถ้าเราลงโทษใครต้องจับให้มั่นคั้นให้ตายต้องไม่จับผิดตัว ขอให้เชื่อว่าไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน” รมว.ศึกษาธิการกล่าว
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 29 มกราคม 2559