'ดาว์พงษ์'สั่งรื้อเกณฑ์คัดเลือกผู้อำนวยการ-รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ชี้ผู้อำนวยการเก่งโรงเรียนพัฒนาเร็ว
วันนี้ (28 ม.ค.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือถึงแนวทางการเข้าสู่ตำแหน่งของผู้บริหาร โดยเฉพาะตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพราะจากการที่ทำงานร่วมกับภาคเอกชน พบว่า กุญแจสำคัญที่จะทำให้การจัดการศึกษาประสบความสำเร็จ คือ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ซึ่งหากเราคัดสรรคนดี คนเก่งมาเป็นผู้บริหารโรงเรียน สถานศึกษาก็จะพัฒนาไปได้เร็ว ดังนั้น ต้องมาดูว่ากติกาเดิมที่ใช้ในการคัดเลือกมีช่องว่างใดที่ต้องปรับแก้ไขให้เกิดความเหมาะสม
"ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนมีผลมากต่อการพัฒนาการศึกษา สังเกตได้จากโรงเรียนที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจะมีผู้อำนวยการโรงเรียนที่เก่ง ขยันทุ่มเท โรงเรียนที่พัฒนาได้ช้าอาจจะมีปัจจัยอื่นบ้าง แต่หัวใจสำคัญ คือ ผู้อำนวยการโรงเรียน ส่วนจะปรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สพฐ. โดยให้ผู้ที่เข้าคัดเลือกในกลุ่มประสบการณ์ ไม่ต้องผ่านการสอบข้อเขียนตามที่สพฐ.เสนอหรือไม่ผมยังไม่สามารถตอบได้" พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีที่ตนได้มอบหมายให้ ก.ค.ศ.ไปหาแนวทางปรับแก้อำนาจในการบริหารงานบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ โดยให้สพฐ. มีอำนาจในการโยกย้าย ลงโทษ หรือสอบสวนทางวินัยครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดจากเดิมที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) นั้น ยังไม่ลงตัว แต่มีการพูดคุย และมอบหมายให้สพฐ.และก.ค.ศ. ไปหารือร่วมกัน เนื่องจากตนเห็นว่า กระบวนการสอบสวนวินัยของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีความล่าช้า โดยเฉพาะการสอบสวนกรณีการทุจริต จึงต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรให้การสอบวินัยมีความรวดเร็วขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เชื่อมโยงไปถึงการพิจารณาแต่งตั้งผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก็ทำให้บุคคลเหล่านั้นเลื่อนตำแหน่งไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องมาดูว่าการลงโทษทำไมถึงช้า ส่วนจะต้องคืนอำนาจไปให้สพฐ. หรือไม่นั้น ตนต้องศึกษาข้อมูลจาก สพฐ. และ ก.ค.ศ. ประกอบการพิจารณาก่อน.
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 28 มกราคม 2559