เมื่อวันที่ 25 มกราคม นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยความคืบหน้าตามที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สั่งการให้ ก.ค.ศ.หาแนวปรับแก้อำนาจในการบริหารงานบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีอำนาจโยกย้าย ลงโทษ หรือสอบสวนทางวินัยได้ เนื่องจากปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีอำนาจในการบริหารงานครูและบุคลากรทางการศึกษา แต่อำนาจในการโยกย้าย ลงโทษ หรือสอบสวนทางวินัยเป็นของ ก.ค.ศ.
ทำให้ที่ผ่านมา การทำงานต่างๆ ยังไม่ลงตัวมีข้อติดขัด อาทิ ข้อกำหนดของ ก.ค.ศ.ที่ว่าสพฐ.ไม่สามารถย้ายครู หรือผู้บริหารสถานศึกษาได้ หากเจ้าตัวไม่ยินยอม เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนครู ครูไม่ครบชั้น หรือแม้กระทั่งมีครูมากเกินไปในบางพื้นที่ เพราะ สพฐ.ซึ่งทำหน้าที่บริหารบุคลากร ไม่มีอำนาจสั่งย้าย หรือเกลี่ยครูได้อย่างเหมาะสม เวลามีเรื่องร้องเรียนต่างๆ เข้ามา สพฐ.ก็ไม่มีอำนาจสั่งย้ายครู หรือผู้บริหารโรงเรียนที่มีปัญหา สั่งย้ายได้แต่ก็เพียงชั่วคราว เพราะเป็นอำนาจของ ก.ค.ศ.
นายพินิจศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังเป็นแนวคิด เพื่อให้การบริหารบุคลากรของ สพฐ.มีความสมบูรณ์ เพราะที่ผ่านมา สพฐ.ไม่มีคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) ที่ทำหน้าที่กลั่นกรองงานบริหารงานบุคคลส่งผลให้เมื่อเกิดปัญหาไม่ว่าจะเป็นข้อร้องเรียนต่างๆ ปัญหาการบริหารจัดการบุคลากร อาทิ การเกลี่ยครูลงไปในพื้นที่ขาดแคลนครู สพฐ.ไม่สามารถดำเนินการได้ทันที ต้องรอเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาก่อน
ซึ่งตรงนี้ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปได้ช้าลง หากให้ สพฐ. ซึ่งเป็นต้นสังกัดของครูและผู้บริหารโรงเรียนอยู่แล้ว ดูแลเรื่องเหล่านี้เอง ก็จะทำให้การดำเนินการมีความรอบคอบมากขึ้น ขณะนี้ยังไม่สามารถลงลึกในรายละเอียดได้ว่าการปรับแก้เรื่องดังกล่าวจะออกมาในรูปแบบใด เพราะอยู่ระหว่างดำเนินการ
"เดิมทีกฎหมายให้อำนาจ ก.ค.ศ.ในการดูแลเรื่องการบริหารงานบุคคล เพราะมองในแง่ของการกระจายอำนาจ แต่เวลานี้ทุกฝ่ายมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นตรงกันว่าถ้าการบริหารงานบุคคลไม่ผ่านต้นสังกัดแล้ว ก็อาจจะไม่เกิดความรอบคอบและส่งผลให้เกิดปัญหาระยะยาวได้ เพราะฉะนั้น ก.ค.ศ.จึงรับนโยบายนี้มาศึกษาเพื่อให้การบริหารงานบุคคลมีความสมบูรณ์มากขึ้น" นายพินิจศักดิ์ กล่าว
ที่มา คมชัดลึก ฉบับวันที่ 27 ม.ค. 2559 (กรอบบ่าย)