กระทรวงไอซีที ย้ำ งบประมาณที่ ครม.อนุมัติ 2 หมื่นล้านบาท ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด สั่ง ทีโอที-กสท ทำแผนจัดสรรงบประมาณพร้อมดำเนินการร่วมกัน คาดจะสามารถสรุปพื้นที่ในการวางโครงข่ายทั้งหมดภายในเดือน ก.พ.59
วันนี้ (20 ม.ค.) ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นายอุตตม สาวนายนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานในสังกัดภายหลังที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ 20,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2559 ว่า งบประมาณดังกล่าวกระทรวงจะให้ดำเนินโครงการเพื่อยกระดับเครือข่ายโทรคมนาคมของประเทศแบ่งเป็น 2 ส่วน คือการพัฒนาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศทุกหมู่บ้านอย่างมีคุณภาพจำนวน 1,500 ล้านบาท และโครคงการขยายขีดความสามารถเครือข่ายการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในประเทศและต่างประเทศจำนวน 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะต้องใช้งานได้จริงในราคาที่ถูกลง เพื่อให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีทางเลือกมากขึ้นและเป็นการลดต้นทุนในการให้บริการโดยกระทรวงไอซีที จะมอบหมายให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ดำเนินการ โดยจะไม่ปิดกั้นเอกชนที่มีความสนใจเข้ามาให้บริการโดยโครงการนี้จะมีศักยภาพที่จะปรับโครงสร้างสังคมและเศรษฐกิจของประเทศซึ่งการลงทุนขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตจะไม่ลงทุนซ้ำซ้อนกับโครงการเดิมแต่จะเป็นการช่วยต่อขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในแนวทางที่สอดคล้องกับภาพรวมที่ดำเนินการอยู่
อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินโครงการพัฒนาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศทุกหมู่บ้านนั้นจะต้องครอบคลุมหมู่บ้านทั้งหมด 70,000 หมู่บ้าน ซึ่งปัจุบันมีการให้บริการและอินเทอร์เน็ตเข้าถึงแล้วราว 53% แต่ยังเป็นเทคโนโลยีรุ่นเก่าที่อาจต้องปรับปรุงและเปลี่ยนเทคโนโลยีส่วนที่เหลืออีก 47% หรือกว่า 30,000 หมู่บ้าน ยังไม่มีการเข้าถึงเพราะสภาพภูมิศาสตร์ไม่เอื้อต่อการลงทุนดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาความเลื่อมล้ำรัฐบาลจึงสนับสนุนให้กระทรวงเป็นผู้ดำเนินการทั้งนี้ กสท และ ทีโอที จะต้องส่งแผนการดำเนินโครงการวันที่ 22 ม.ค.2559และภายในเดือน ก.พ.2559 จะต้องสรุปพื้นที่ในการวางโครงข่ายทั้งหมด โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในปีนี้และครอบคลุมได้ทั้งประเทศในปี 2560
“งบประมาณที่รัฐบาลให้มาเป็นแค่กรอบวงเงินอาจจะใช้ไม่หมดก็ได้ กระทรวงไอซีทีจะทำงานอย่างรอบคอบโดยเอาเงินที่มาจากภาษีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องเป็นธรรม ซึ่งภายในเดือนนี้จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่ที่จะดำเนินการและงบประมาณที่คาดว่าจะใช้ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้เน้นเป็นหลักการว่าสิ่งที่ทำต้องสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านมิติของสังคม การศึกษา การเข้าถึงบริการภาครัฐ สาธารณูปโภค เป็นต้น”นายอุตตม กล่าว
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 20 มกราคม 2559