สตม.ฝากสถานศึกษาที่มีชาวต่างชาติแจงมาตรการใหม่ควบคุมคนต่างด้าวที่อยู่เกินกำหนดอนุญาต จะมีผลบังคับใช้ 20 มี.ค. มั่นใจช่วยลดปัญหาอาชญากรรม และป้องกันอาชญากรต่างชาติเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นที่ซ่อนตัว ย้ำคนต่างด้าวที่รู้ตัวทำผิดกฎหมายไม่อยากโดนขึ้นแบล็กลิสต์รีบเสียค่าปรับ และออกนอกประเทศก่อน 20 มี.ค.นี้
วันนี้ (15 ม.ค.) ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมสามัญประจำปีสมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทย ซึ่งมีผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติ จำนวน 120 แห่ง เข้าร่วม ว่า มาตรการควบคุมคนต่างด้าวที่อยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) เรื่อง การไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาในราชอาณาจักร จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 มีนาคม 2559 โดยมีมาตรการดังนี้ กรณีที่คนต่างด้าวที่อยู่เกินกำหนดเข้ามามอบตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หากอยู่เกินที่ได้รับอนุญาต เกินกว่า 90 วัน ห้ามเข้ามานับตั้งแต่วันที่เดินทางออก นอกประเทศเป็นระยะเวลา 1 ปี อยู่เกินกว่า 1 ปี ห้ามเข้ามา 3 ปี อยู่เกินกว่า 3 ปี ห้ามเข้ามา 5 ปี อยู่เกินกว่า 5 ปี ห้ามเข้ามา 10 ปี กรณีคนต่างด้าวถูกจับกุม อยู่ไม่เกิน 1 ปี ห้ามเข้ามา 5 ปี อยู่เกินกว่า 1 ปี ห้ามเข้ามา 10 ปี
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวต่อไปว่า ชาวต่างชาติที่ต้องการเคลียร์ Overstay ไม่ต้องการถูกขึ้นแบล็คลิสต์ สามารถเดินทางออกนอกประเทศและเสียค่าปรับได้ จนถึงวันที่ 20 มีนาคมนี้ และหลังจากนั้นก็จะบังคับใช้กฎเกณฑ์ใหม่ ซึ่งจะต้องทั้งถูกปรับและขึ้นแบล็คลิสต์ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่ากฎเกณฑ์ใหม่จะไม่กระทบต่อผู้ที่ปฏิบัติ และมีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง โดยตนขอให้สถาบันการศึกษาช่วยถ่ายทอดหลักเกณฑ์ใหม่ไปสู่ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย เนื่องจากสถาบันการศึกษามีทั้งครู นักเรียน นิสิต นักศึกษา บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ที่เป็นชาวต่างชาติจำนวนมาก ทั้งนี้กฎเกณฑ์นี้ยังช่วยลดปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ลดปัญหาการค้ามนุษย์ รวมทั้งป้องกันอาชญากรที่หนีคดีมาใช้ประเทศไทยเป็นที่หลบซ่อนตัวด้วย
“นับตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2558 สตม.สามารถลดจำนวนชาวต่างชาติที่อยู่เกินอนุญาตหรืออยู่อย่างผิดกฎหมายได้นับหมื่นคน หรือ ลดลงกว่า 20% และอีกจำนวนหนึ่งตื่นตัวรีบเดินทางออกไปก่อน และเชื่อว่าก่อนที่กฎ Overstay มีผลใช้บังคับจะมีชาวต่างชาติที่อยู่อย่างผิดกฏหมายรีบเดินทางออกไป เพื่อไม่ให้ถูกขึ้นแบล็คลิสต์และจะสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้อีก” พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าว
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 15 มกราคม 2559