สุราษฎร์ธานี 6 ม.ค. – เกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ทับซ้อนกับอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ที่ไม่สามารถตัดโค่นต้นยางพาราที่หมดสภาพไปปลูกพืชชนิดอื่นได้ จึงต้องหันมาปลูกพืชที่ให้ผลเร็วเช่นสตรอเบอร์รี่แซมในร่องสวนยางพารา ได้ผลผลิตดี สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว
สตรอเบอร์รี่กว่า 500 ต้น ของนางสาวภัณฑิลา ดีหนู เกษตรกรชาวสวนยางพาราวัย 42 ปี ที่หมู่ 2 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี กำลังออกผลพร้อมให้เก็บผลผลิตได้เร็วๆ นี้ เกษตรกร ภัณฑิลา ได้ทดลองปลูกสตรอเบอร์รี่แซมสวนยางพารามาแล้ว 1 ปี แก้วิกฤติราคายางพาราตกต่ำ มีทั้งสตรอเบอร์รี่สายพันธุ์พระราชทาน 80, พันธุ์ไทโอก้าจากญี่ปุ่น และพันธุ์พายน์เบอร์รี่ สามารถเก็บผลผลิตจำหน่ายได้ทุก 3 เดือน สตรอเบอร์รี่ทั้ง 3 สายพันธุ์ให้ผลผลิตดีและรสชาติดี เนื่องจากพื้นที่ อ.เวียงสระ และ อ.บ้านนาสาร เป็นแหล่งแร่ยิปซัมทำให้ผลไม้ที่นี่มีรสชาติอร่อยกว่าที่อื่นๆ และเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก รวมทั้งพื้นที่สวนยางพาราแห่งนี้ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 500 เมตร มีสภาพอากาศหนาวเย็น มีหมอกปกคลุมในตอนเช้า จึงเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกสตรอเบอร์รี่เป็นอย่างมาก
ที่มาคลิปจาก YouTube โพสต์โดยสมาชิกยูทูปชื่อ สํานักข่าวไทย TNAMCOT
พื้นที่สวนยางพาราของเธอเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ทำให้ไม่สามารถตัดโค่นต้นยางพาราอายุกว่า 30 ปีได้ เธอจึงปลูกต้นสตรอเบอร์รี่แซมสวนยางพารา และยังประสบปัญหาไม่สามารถกู้ยืมเงินของรัฐบาลได้ เพราะสวนยางพาราไม่มีเอกสารสิทธิ์ จึงวอนขอให้ภาครัฐเร่งตรวจสอบพื้นที่ทับซ้อน เพื่อจะได้ใช้สิทธิในการขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การทดลองปลูกสตรอเบอร์รี่แซมสวนยางพาราทำให้เกษตรกรรายนี้ สามารถเก็บผลผลิตจำหน่ายได้กิโลกรัมละ 200-300 บาท สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว และยังสามารถเพาะพันธุ์จำหน่ายต้นสตรอเบอร์รี่เพิ่มเติม สร้างรายได้ทดแทนราคายางพาราที่กำลังตกต่ำอีกด้วย.
ที่มา -สำนักข่าวไทย วันที่ 6 มกราคม 2559