กยศ.เตรียมจับมือส่วนราชการหักเงินเดือนคืน
กยศ.เตรียมลงนามส่วนราชการช่วยหักเงินเดือนคืน และเสนอ ครม.เร็ว ๆ นี้พิจารณาให้องค์กรนายจ้างหักเงินเดือนนำส่งพร้อมกับภาษี ณ ที่จ่าย
นางฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า สถานการณ์การชำระหนี้ช่วงปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มดีขึ้น โดยปี 2558 มียอดชำระหนี้คืน 17,000 ล้านบาท มียอดค้างชำระประมาณร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับปี2557 ที่มียอดการชำะคืนหนี้ 13,000 ล้านบาท มียอดค้างชำระร้อยละ 29 โดยเป้าหมายปี 2559 คาดว่าจะมียอดชำระ 19,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้นโยบายร่วมมือกับองค์กรนายจ้างที่จะทำหน้าที่หักเงินเดือนเพื่อชำระหนี้เป็นรายเดือน ซึ่งจะลดภาระการชำระหนี้ก้อนเดียวเป็นรายปี ทำให้เป็นภาระต่อผู้กู้จำนวนมาก โดยขณะนี้มีองค์กรนายจ้าง 4 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก บริษัทปาร์คดีไซน์
สำหรับปีนี้ เริ่มส่งหนังสือถึงองค์กรนายจ้างที่เป็นส่วนงานราชการทุกแห่ง เพื่อทยอยลงนามร่วมกับ กยศ.ทำให้ข้าราชการ 60,000 รายที่กู้ยืมจาก กยศ.และค้างชำระจะต้องถูกหักเงินเดือนรายเดือน เพื่อนำมาชำระหนี้ กยศ.ทำให้ยอดการชำระหนี้ของ กยศ.ปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ยังเสนอกระทรวงการคลังเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเร็ว ๆ นี้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเพื่อการศึกษา ส่วนหนึ่งจะบังคับให้องค์กรนายจ้างทุกแห่งทั้งภาครัฐและเอกชนหักเงินนำส่งกองทุน กยศ.พร้อมกับเงินหักภาษี ณ ที่จ่ายของกรมสรรพากร แม้จะมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องชำระ เพื่อให้กรมสรรพากรนำส่งกองทุน กยศ.
ทั้งนี้ คาดว่าปี 2559 กยศ.จะได้รับเงินชำระคืนประมาณ 19,000 ล้านบาท จากปี 2558 มียอดชำระคืน 17,000 ล้านบาท ปัจจุบัน กยศ.ปล่อยกู้ให้นักศึกษา 4.5 ล้านราย วงเงิน 400,000 ล้านบาท และจบการศึกษาทำงานครบกำหนดชำระเงินไปแล้ว 3.1 ล้านราย และมีผู้ค้างชำระ 2 ล้านราย วงเงิน 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มคนชำระทั่วไป ซึ่งค้างชำระบ้างติดค้างบางส่วน 1.2 ล้านราย วงเงิน 14,000 ล้านบาท กลุ่มไกล่เกลี่ยประนีประนอม 100,000 ราย วงเงิน 7,000 ล้านบาท กลุ่มฟ้องร้องดำเนินคดี 700,000 ราย วงเงิน 35,000 ล้านบาท และปี 2559 ได้กำหนดเงื่อนไขใหม่ สำหรับการกู้เงินจากกองทุน กยศ.โดยต้องมีผลการเรียนเฉลี่ย 2
นอกจากนี้ กยศ.ยังออกโครงการ “กยศ.รวมใจปันโลหิต ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ปี 3″ เพื่อรณรงค์ให้นักศึกษาร่วมบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย หลังจากที่ผ่านมาได้รับบริจาคได้แล้ว 4.6 ล้านซีซี เพื่อส่งเสริมให้ร่วมบริจาคโลหิต.-สำนักข่าวไทย
ที่มา สำนักข่าวไทย วันที่ 7 มกราคม 2559