“ชัยพฤกษ์”เผย สอศ.ตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 เด็กอาชีวะทุกคนทุกสาขา ต้องเรียนหลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการ อังกฤษควักงบฯนิวตันฟันด์ร่วมพัฒนาจัดอาชีวศึกษา
วันนี้ (5 ม.ค.) ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า ในปี 2559 นี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะขับเคลื่อนการจัดอาชีวศึกษา ทั้งพัฒนาให้มีความเป็นเลิศเฉพาะด้าน มีมาตรฐานสากล การเรียนรู้จากประสบการณ์จบแล้วประกอบอาชีพได้ทันที และยกระดับการเรียนหลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและประกาศผลักดันนโยบายการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี เป็นวาระแห่งชาติ โดย สอศ.กำหนดให้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 เป็นต้นไปนักเรียน นักศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)ทุกคนทุกสาขา ต้องเรียนหลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการ จากปัจจุบันจะเรียนแค่สาขาธุรกิจ สาขาพาณิชยกรรมเท่านั้น
"ปีการศึกษา 2559 ทุกวิทยาลัยจต้องรับนโยบายดังกล่าวไปดำเนินการ โดยขณะนี้ สอศ.กำลังเร่งพัฒนาหลักสูตร พัฒนาสื่อสำเร็จรูป ที่สอดแทรกความรู้การเป็นผู้ประกอบการ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ครูนำไปใช้ในการสอน ซึ่งความเข้มข้นของการสอนและส่งเสริมในแต่ละสาขาจะแตกต่างกันไป แต่จะเน้นให้ทุกคนต้องเรียนรู้ เพื่อเพิ่มเส้นทางอาชีพให้แก่ผู้เรียนสายอาชีพที่จบออกมาทำงานในสถานประกอบการ และสามารถสร้างธุรกิจตนเองหรือเป็นเถ้าแก่ได้ ขณะเดียวกันจะจัดอบรมให้ครู 2,000 คน ให้มีความรู้ มีความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการ เพื่อนำไปถ่ายทอดสู่ผู้เรียนได้ คาดว่าทั้งหมดจะแล้วเสร็จเดือนเมษายนนี้ และ เริ่มใช้ได้ทันทีการเปิดภาคเรียนที่ 1/2559 ในเดือนพฤษภาคม " เลขาธิการ กอศ.กล่าว
ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้จะเร่งพัฒนาการอาชีวศึกษาด้านสะเต็มศึกษา เพื่อให้เด็กได้คิดอย่างเป็นระบบ โดยการพัฒนาทั้งหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน เทคโนโลยีและอุปกรณ์ การวิจัยและพัฒนาในสาขาช่างอุตสาหกรรม ธุรกิจบริการ และเกษตรกรรม โดยจะนำร่องในวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ 5 แห่งประกอบด้วย วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ชลบุรี วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี วิทยาลัยเทคนิคพังงา วิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน ทั้งนี้ จากการหารือกับหารือกับนายพอล บิวท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย และคณะผู้บริหารบริติช เคานซิล (ประเทศไทย) ทางอังกฤษจะร่วมพัฒนาพัฒนาการอาชีวศึกษา โดยเบื้องต้นสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนวิจัยและนวัตกรรมสำหรับประเทศที่มีศักยภาพ หรือ “นิวตันฟันด์” เพื่อใช้ดำเนินการทั้ง 2 เรื่องรวมประมาณ 18ล้านบาทด้วย
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 5 มกราคม 2559