รมว.ศึกษาธิการ แถลงผลงานกระทรวงศึกษาธิการในรอบ 1 ปี ยอมรับพอใจผู้บริหารทุกคนที่ช่วยกันทำงานจนประสบความสำเร็จ โปรยยาหอมปี 59 ต้องมีความชัดเจนในการแก้ปัญหาหนี้สินให้ครู
วันนี้ (24 ธ.ค.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ. รมว.ศึกษาธิการ ได้แถลงผลการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ศธ.ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลด้านการศึกษาในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รวบรวมประเด็นปัญหาการศึกษาต่างๆพร้อมบูรณาการแก้ปัญหาร่วมกับทุกหน่วยงานในศธ. โดยตนจะไม่วางแผนการทำงานแบบเพ้อเจ้อแต่จะดูภาพรวมของสถานการณ์การเงินของประเทศด้วย ซึ่งได้เริ่มโครงการลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 4,100 โรง และในปี 2559 จะขยายเพิ่มอีก 10,669 โรง โดยคาดว่าในปี 2560 จะขยายโครงการดังกล่าวให้ครบทุกโรงเรียน นอกจากนี้ยังได้จัดทำโครงการคืนครูสู่ห้องเรียนเพื่อแก้ปัญหาขาดครู ด้วยการจ้างครูเกษียณที่มีความเชี่ยวชาญ จำนวน 10,000 คน และโครงการผลิตครูเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น จำนวน 4,000 คนต่อปี ซึ่งโครงการนี้จะสิ้นสุดโครงการในปี 2567
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ศธ.ยังได้แก้ปัญหาด้านการผลิตคนตามความต้องการของประเทศ โดยยกระดับคุณภาพการจัดการอาชีวศึกษารูปแบบทวิภาคีร่วมมือกับสถานประกอบการเมื่อจบการศึกษาแล้วสามารถประกอบอาชีพได้ทันที นอกจากนี้ได้จัดโครงการอุดมศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ โดยจะผลักดันให้มีมหาวิทยาลัยวิจัยเพิ่มขึ้น และในปี 2559 จะต้องเป็น World Class University ให้ได้ ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้ครูในปีหน้าตนจะเรียกแหล่งเงินกู้ 4 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ธนาคารออมสิน โครงการสวัสดิการเงินกู้ ชพค./ชพส. และกองทุนเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครูมาหารือ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปล่อยกู้ เพราะการปล่อยกู้ให้ครูจะต้องสอดคล้องกับรายได้ของครูด้วย ทั้งนี้ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขเนื่องจากปัญหาที่ครูมีภาระหนี้มากจะส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอน
"ผมพอใจในภาพรวมผลงานของศธ.ส่วนจะถูกใจใครหรือไม่ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งผมคงไม่สามารถให้คะแนนตัวเองได้ เพราะผู้บริหารทุกคนในองค์กรหลักช่วยกันทำงานเพื่อการศึกษาอย่างเต็มที่แล้ว จึงสอบผ่านการทำงานทุกคน" รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามงานขับเคลื่อนปฎิรูปการศึกษาต่อจากนี้ไปจะไม่ใช่แค่ในกระดาษ แต่จะเป็นการทำงานที่จับต้องได้อย่างแน่นอน
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนได้ดำเนินการตามที่รมว.ศธ.มอบหมายในการยกระดับความสามารถด้านภาษาอังกฤษของเด็กไทยโดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จัดส่งผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษมาสอนในโรงเรียน ขณะที่ในระดับอาชีวศึกษาได้สร้างนวัฒนกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยเน้นพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในวิชาชีพ ส่วนระดับอุดมศึกษา จะจัดแสดงผลคุณวุฒิภาษาอังกฤษในแบบแสดงผลการศึกษา หรือ ทรานสคริปต์
ด้านพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงษ์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวได้ ตนได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาโดยใช้ระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม โดยในปี2559 จะพัฒนาระบบดังกล่าวให้เป็นระบบคลาวด์ของรัฐบาล เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ดำเนินโครงการนักเรียนป.1อ่านออกเขียนได้ใน1ปี โดยใช้วิธีการสอนแบบแจกลูกสะกดคำ ซึ่งตั้งเป้าเมื่อจบปีการศึกษา2558 จะต้องไม่มีนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
ที่มา เดลินิวส์ วันที่ 24 ธันวาคม 2558