เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเจรจากับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งให้คืนเงินให้ สกสค.จำนวน 2,100 ล้านบาท ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินสรุปสำนวน กรณีสถาบันการเงินแห่งนี้อนุมัติปิดบัญชีและเบิกถอนเงินของ สกสค.ที่ฝากไว้กับธนาคาร เพราะถือว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารมีความประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดความเสียหาย ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ ศธ.ดำเนินการตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินสรุปสำนวน ว่าตนได้ลงนามในหนังสือแจ้งให้สถาบันการเงินดังกล่าว ดำเนินการคืนเงินจำนวน 2,100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายให้กับ สกสค. เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการอนุมัติปิดบัญชีและเบิกถอนเงินของ สกสค.ที่ฝากไว้กับสถาบันการเงินดังกล่าวอย่างไม่ ถูกต้อง ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้สรุปและชี้มูล
"สกสค.พบความผิดปกติในเรื่องดังกล่าวและทำการตรวจสอบ ก่อนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะสรุปผลและชี้มูลมาให้ แต่ที่ผ่านมาไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้เพราะอยากให้มั่นใจ แต่ขณะนี้แน่ชัดแล้วว่าสถาบันการเงินดังกล่าวอนุมัติให้ปิดบัญชีและเบิกถอนเงินไม่ถูกต้อง ซึ่งกรณีนี้มีหนังสือคำสั่งให้เบิกถอนเงินจำนวน 2 ฉบับ โดยฉบับแรกเลขาธิการ สกสค.ในช่วงนั้นได้ลงนามในหนังสือให้เบิกถอนเงินจำนวน 2,100 ล้านบาท แต่ในหนังสือไม่ได้ระบุว่าโอนเงินให้ใคร สถาบันการเงินจึงได้สอบถามมายัง สกสค. ซึ่งรองเลขาธิการ สกสค.คนหนึ่งในขณะนั้น ระบุว่าให้โอนเงินบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป โดยเซ็นกำกับเองในหนังสือฉบับที่ 2 ซึ่งเป็นคนละวันกับที่ออกหนังสือฉบับแรก แต่เลขที่หนังสือและวันที่ส่งกลับไปยังสถาบันการเงินดังกล่าวกลับเป็นวันเดียวกันกับฉบับแรก จึงถือว่าไม่ถูกต้อง อีกทั้งรองเลขาธิการ สกสค.ก็ไม่มีอำนาจในการเบิกถอนเงินจำนวนดังกล่าว ดังนั้นการที่สถาบันการเงินดังกล่าวอนุมัติให้รองเลขาธิการ สกสค.ในขณะนั้นปิดบัญชีได้จึงไม่ถูกต้อง อีกทั้งเลขที่หนังสือและวันที่ในหนังสือยังต้องยึดตามหนังสือฉบับ 2 แต่กลับไปใช้เลขที่และวันที่เดียวกับฉบับแรก จึงถือว่ามีความผิดชัดเจน" นายพินิจศักดิ์กล่าว และว่า ส่วนการตรวจสอบกรณี สกสค.ซื้อหุ้นบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด ในโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน บ้านป่าตอง ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาทนั้น ได้มอบหมายให้นายเอกศักดิ์ คงตระกูล รองเลขาธิการ สกสค. ไป พูดคุยกับเจ้าของบริษัทหนองคายน่าอยู่เพื่อรวบรวมข้อมูลและสรุปผลการตรวจสอบต่อไป
ด้านนายเอกศักดิ์กล่าวว่า ได้สอบถามเจ้าของบริษัทหนองคายน่าอยู่ กรณีที่ สกสค.ซื้อหุ้นสูงกว่าราคาพาร์ จากราคาหุ้นละ 10 บาท เป็น 25 บาท เป็นเงินรวม 800 กว่าล้านบาท เงินทั้งหมดยังอยู่ในบัญชีของบริษัทหรือไม่ ซึ่งทางบริษัทหนองคายน่าอยู่ยืนยันว่าเงินจำนวนดังกล่าวยังอยู่ในบัญชีของบริษัท โดยเหตุผลที่ให้ สกสค.ซื้อหุ้นสูงกว่าราคาพาร์ถึง 15 บาท เนื่องจากเห็นว่าอนาคตบริษัทหนองคายน่าอยู่มีโอกาสจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แน่นอน เพราะการลงทุนเรื่องพลังงานอยู่ในแผนของกรมควบคุมมลพิษและอยู่ในแผนการพัฒนาของ จ.หนองคาย ดังนั้นตนจึงขอให้ผู้ตรวจบัญชีของบริษัทหนองคายน่าอยู่นำบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน มาชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริม ความมั่นคงตามโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ของ สกสค. วันที่ 21 ธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม เหตุผลทั้งหมดเป็นความเห็นของบริษัทหนองคายน่าอยู่เท่านั้น ซึ่งส่วนตัวคิดว่าการซื้อหุ้นดังกล่าวยังมีความผิดปกติที่ต้องตรวจสอบต่อไป
ที่มา มติชน ฉบับวันที่ 22 ธ.ค. 2558 (กรอบบ่าย)