รมว.ศึกษาธิการ ชี้มหา’ลัยไทยยังผลิตบัณฑิตไม่ตรงกับความต้องการของประเทศ งานวิจัยไม่มีคุณภาพ เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาขาดแคลนครู เผยเตรียมเปลี่ยนชื่อโครงการคุรุทายาท พร้อมจัด 10,000 อัตราสำหรับจ้างครูเกษียณต่อ แย้มเร็วๆ นี้จะคลอดประกาศบังคับนักศึกษาปริญญาตรีทุกคนต้องผ่านการทดสอบภาษา แต่ไม่มีผลกับการจบการศึกษา
วันนี้ (18 ธ.ค.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ความร่วมมือของอุดมศึกษาไทยในการแก้ไขปัญหาประเทศ” ในการประชุมวิชาการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) ประจำปี 2558 ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ตอนหนึ่งว่า ปัญหาของอุดมศึกษาไทย ยังพบว่าสถาบันอุดมศึกษามีการผลิตบัณฑิตไม่ตรงกับความต้องการของประเทศ ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ โดยขาดแคลนและล้นในบางสาขา งบประมาณในการพัฒนามหาวิทยาลัยมีจำกัด ปัญหาคุณภาพนักเรียนที่จะเข้าเรียนต่ออุดมศึกษา บัณฑิตยังไม่มีคุณภาพ ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับต่ำ ยังคงมีการจัดการศึกษาเชิงพาณิชย์ การวิจัยไม่มีคุณภาพและไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาของประเทศ ซึ่งตนเห็นว่าควรนำงบฯวิจัยที่กระจายอยู่ตามกระทรวง กรมต่างๆ มารวมไว้ที่เดียวกัน และจัดสรรให้มหาวิทยาลัยร่วมมือกับภาคเอกชนทำการวิจัย โดยแบ่งกลุ่มทำงานวิจัยอย่างเป็นระบบ
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ประเทศมีปัญหาขาดแคลนครู ผมกำลังเร่งให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เสนอโครงการคุรุทายาท ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อโครงการใหม่ว่า โครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น เนื่องจากชื่อเดิมหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโครงการของลูกครู โดยโครงการใหม่นี้จะคัดเด็กเก่งเข้าโครงการ มีอัตราบรรจุในภูมิลำเนา และสามารถกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ 100% ซึ่งตนจะหารือกับรมว.คลัง ให้ตั้งงบฯเพิ่มให้แก่ กยศ. ซึ่งรับรองได้ว่าเงินจะไม่สูญ เพราะเมื่อจบแล้วจะให้หักเงินคืน กยศ.ก่อน ขณะเดียวกันจะให้สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จัดงบฯปี 2560 เพื่อจ้างครูเกษียณให้สอนในสาขาขาดแคลนในพื้นที่ที่ขาดแคลนครู จำนวน 10,000 อัตรา โดยจะเริ่มจ้างได้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559
"สำหรับปัญหาด้านภาษาอังกฤษของเด็กไทยนั้น ในเร็วๆ นี้ กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) จะประกาศนโยบายกำหนดให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีทุกคน ต้องเข้ารับการทดสอบภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารหรือภาษาต่างประเทศภาษาที่สอง เช่น ภาษามาเลเซีย พม่า กัมพูชา ก่อนจบการศึกษา และนำผลการทดสอบระบุไว้ในใบรับรองผลการศึกษา หรือ ทรานสคริปต์ แต่จะไม่มีผลกับเกรดหรือการจบการศึกษา ซึ่งจะเริ่มที่นิสิต นักศึกษาปี 1 ปีการศึกษา 2559 ก่อน" รมว.ศธ.กล่าว
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 18 ธันวาคม 2558