อ.ก.พ.สพฐ.เลื่อนพิจารณาลงดาบทุจริตครูผู้ช่วย เหตุองค์ประชุมไม่ครบขาดผู้แทน ก.พ.กับฝ่ายกฎหมาย “บิ๊กหนุ่ย”สั่งเร่งประสานกรรมการนัดวาระพิเศษพิจารณาโดยเฉพาะ ย้ำต้องจบในนัดหน้า
วันนี้ (9 ธ.ค.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน(อ.ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ทำหน้าที่แทน อ.ก.พ.ศธ. ว่า ในวาระการประชุมมีวาระการพิจารณาโทษทางวินัย ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และนายไกร เกษทัน อดีตผอ.สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ(สพร.) สพฐ. กรณีการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ว 12 ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงที่มีนายอภิชาติ จีระวุฒิ อดีตที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้สรุปผลการสอบเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา แต่การประชุมวันนี้ยังไม่ได้พิจารณาวาระนี้ เนื่องจากขาดองค์ประชุมที่สำคัญคือ ผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และผู้ทรงคุณวุฒิฝ่ายกฎหมาย ตนจึงมอบให้ฝ่ายเลขานุการไปประสานคณะกรรมการให้ครบ และนัดประชุมนัดพิเศษโดยเร็วที่สุดไม่ต้องคอยการประชุมปกติและจะพยายามตัดสินให้จบในวันนั้นด้วย
“การพิจารณาเรื่องนี้เป็นวาระลับ และเป็นเรื่องที่ให้คุณและโทษกับบุคคล เมื่อขาดองค์ประชุมซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพิจารณาถึง 2 คน ผมจึงขอให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อน ไม่ใช่ไม่ไว้ใจลูกน้องตัวเอง แต่เพราะคน สพฐ. เคยทำงานด้วยกันมา มีความรัก ความสนิท และชอบพอกัน จึงอาจลำบากใจหากต้องตัดสินใจ จึงต้องใช้คนกลางเข้ามาช่วยตัดสิน ไม่ใช่จะยื้ดหรืออะไร ผิดก็คือผิด จะช้า จะเร็วก็ต้องถูกลงโทษ อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ที่ผ่านมามีคนพยายามเข้ามาอธิบายเหตุผลเรื่องนี้กับผมบ้าง แต่ตอนนั้นผมยังไม่ทราบรายละเอียดและไม่รู้ด้วยว่า ดร.ชินภัทรคือใคร จึงไม่มีผลอะไร และจนขณะนี้ก็ยังไม่มีใครมาวิ่งเต้นและโทรหาผมเลย”รมว.ศธ.กล่าว
ด้านนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ในการประชุมได้มีมติแต่งตั้งให้ ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการ กพฐ.เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาเพื่อคัดเลือกผู้บริหารระดับสูงของสพฐ.ที่ยังว่างอยู่อีก 1 ตำแหน่ง คือ รองเลขาธิการกพฐ. และตำแหน่งผู้บริหารระดับต้น คือ ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงได้เห็นชอบให้ สพฐ.ทำหนังสือถึง คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เพื่อขอคืนอัตราเกษียณข้าราชการในสังกัด สพฐ. จำนวน 44 อัตรา ด้วย ส่วนการนัดหมายคณะกรรมการ อ.ก.พ.สพฐ.เพื่อพิจารณาลงโทษทางวินัยกรณีทุจริตสอบครูผู้ช่วยนั้น สพฐ.จะเร่งทำหนังสือประสานและนัดหมายกรรมการทุกคน เพื่อกำหนดการประชุมโดยเร็วที่สุดต่อไป.
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 9 ธันวาคม 2558