Advertisement
❝ ....ที่มาของบทความOKnation ....Thanks. ❞
นิสัยการท่องเที่ยว (กับทัวร์) ของคนไทย
Posted by toyubom , ผู้อ่าน : 78 , 23:43:19 น.
พิมพ์หน้านี้
ต้องขอออกตัวไว้ก่อนนะครับ ว่าสิ่งที่เขียนต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมล้วน ๆ และก็ประสบการณ์ที่ผมเจอล้วน ๆ นะครับ นำไปอ้างอิงเป็นสถิติหรือพฤติกรรมของคนทั้งหมดไม่ได้
เหตุใดทำไมผมจึงสงสัยกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทย ก็เนื่องมาจากผมได้มีโอกาสท่องเที่ยวต่างประเทศ ไม่ถือว่าบ่อย แต่ก็ไม่ได้น้อยนัก รวมถึงเที่ยวในเมืองไทยด้วย และได้เห็นผู้คนจากหลาย ๆ ประเทศ ที่ไปท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ
พฤติกรรมของคนไทยอย่างแรก ๆ ที่นึกถึง คือ คนไทยชอบการช้อปปิ้งมาก ๆ ไม่ว่าจะไปประเทศไหน ๆ หรือ จังหวัดอะไรสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือการช้อปปิ้ง ซึ่งในโปรแกรมทัวร์ ทั้งไปกับทัวร์ หรือไปคนเดียวก็จะต้องมีการช้อปปิ้งอยู่ในโปรแกรม ผมได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวต่างประเทศกับทัวร์ 2 ครั้ง และในโปรแกรมก็มีการช้อปปิ้ง ไม่ใช่แค่ที่เดียว แต่หลายที่ด้วยกัน จนรู้สึกว่า นี่คือสิ่งที่ประเทศนั้น ๆ อยากจะพรีเซนต์ให้คนไทยได้เห็น หรือเป็นพฤติกรรมของไทยเอง ทัวร์จึงนำโปรแกรมเหล่านี้เข้าไปรวมอยู่ด้วย และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ในกรุ๊ปทัวร์ก็จะมีการเปรียบเทียบราคากัน ว่าใครซื้อมาได้ถูกที่สุดก็จะรู้สึกมีความภาคภูมิใจกว่าคนอื่นว่า ฉันซื้อมาได้ถูกที่สุด เหมือนเป็นความภูมิใจระดับชาติ (แค่ถูกกว่าหลัก 10 ก็ภูมิใจแล้ว) และสิ่งที่ซื้อนั้น อาจจะ (ย้ำอาจจะ) ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า เป็นของชนชาตินั้นจริง ๆ หรือไม่ หรือเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นอัตลักษณ์แค่เพียงว่ามีชื่อของชาตินั้นติด ก็รู้สึกว่าซื้อมาแล้วเป็นของฝากของชาตินั้น หรือสถานที่นั้นแล้ว
พฤติกรรมอย่างที่ 2 ที่ไม่ใช่แค่เรื่องเที่ยวครับ แต่เป็นในทุก ๆ เรื่อง (เป็นคนส่วนหนึ่ง) นั่นก็คือเรื่องเวลา คนไทยจะสามารถรักษาเวลาได้ดีมาก ๆ นั่นคือ มาตรงเวลาเป๊ะ และสาย โดยเฉพาะ เวลาไปกับทัวร์ โดยเฉพาะโปรแกรมที่ให้ช้อปปิ้ง และนัดเวลามาเจอกันที่หมาย จะต้องมีคนมาสายอย่างแน่นอน ซึ่งจะต้องทำให้คนที่เค้ารอ รู้สึกตัวเองเหมือนไม่มีค่า และคนที่เรารออยู่นั่นก็เหมือนมีค่าที่เราจะต้องรอ พอพวกเค้าเหล่านั้นมาถึงก็เหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรว่าตัวเองทำผิดร้ายแรงต่อคนอื่น แถมยังยิ้มน่าชื่นตาบานว่า (เหมือนพฤติกรรมข้อ 1) เปรียบเทียบราคากับคนอื่น
พฤติกรรมที่ 3 คือ การท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ นั่นคือ เราไม่ได้สนใจอย่างแท้จริงว่า สิ่งที่เราเที่ยวอยู่ มีที่มาและที่ไปอย่างไร ทำไมในปัจจุบันถึงเป็นอย่างนี้ หรือว่าสถานที่นี้มีความสำคัญต่อชนชาติเค้าอย่างไร ง่าย ๆ ครับ ถ้าคนต่างชาติมาเที่ยววัดพระแก้ว แล้วมาแสดงกิริยา ที่ไม่ได้ต่อวัดพระแก้ว หรือในวัดพระแก้ว เราก็คงไม่สบายใจนัก ในทางกลับกัน เวลาเราไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ของประเทศเค้า เค้าก็คงไม่สบายใจนักที่เห็นเราไม่เคารพต่อสถานที่สำคัญสำหรับเค้า อีกอย่างคนไทยชอบที่จะถ่ายรูปกับสถานที่เหล่านั้นด้วยความสนใจยิ่งนักเพื่อที่จะได้ให้รู้ว่าเรามาสถานที่นี้แล้ว แต่ลองสังเกตุซิครับ ว่าพอเรากลับมาแล้วเอารูปเหล่านี้ให้เพื่อน ๆ เราดู พอเพื่อน ๆ เราถามว่าสถานที่นี้คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ลองทายซิครับ ว่าเค้าเหล่านั้นจะตอบได้มั้ย (ผมไม่ตอบละกันว่าจะตอบได้มั้ย หาคำตอบกันเอาเอง) แต่ส่งที่เราไม่ได้สนใจเลยนั่นคือ สิ่งที่ไกด์พูด ทั้ง ๆ ที่เราก็ให้ทิปไกด์ด้วย แต่เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับไกด์เลย นอกเหนือจากเมื่อไหร่จะถึงเวลาช้อปปิ้ง
พฤติกรรมที่ 4 อาหารการกิน ร้อยละเท่าไหร่ไม่ทราบที่โปรแกรมทัวร์ไปต่างประเทศของไทย จะมีอาหารไทย อยู่ในโปรแกรม บางโปรแกรมก็เกือบทุกมื้อ (ยกเว้นมื้อเช้า ที่ต้องทานที่โรงแรม) บางโปรแกรมก็บางมื้อ มันอาจจะเป็นความภูมิใจของชนชาติไทย หรือเปล่า ที่เรามีร้านอาหารไทยอยู่ทุกที่ของมุมโลก ผมว่าน่าภูมิใจทีเดียว แต่มันไม่ใช่เวลาของการภูมิใจ มันเป็นเวลาของการไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ที่เราควรจะได้ลิ้มรสอาหารชาตินั้น ๆ นอกเหนือไปจากสถานที่ท่องเที่ยวของชาตินั้น หรือเปล่า นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ลูกทัวร์จะคอมเพลนท์ ไกด์ว่าอาหารไม่อร่อย เฮ่ออออ ไกด์จะรับผิดชอบยังไงดีว่า อาหารชาตินั้น ๆ ไม่อร่อย ไกด์ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของชาตินั้น ๆ ซะด้วย สิ่งที่คนไทยน่าจะรับรู้ก็คือ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ชาตินั้น ๆ ได้ปรุงอาหารลักษณะนั้น และแบบนั้น ก็ควรจะยอมรับในรสชาติ และหน้าตาอาหารแบบนั้น
พฤติกรรมที่ 5 การเข้าพักตามโรงแรมไฮโซต่าง ๆ ซึ่งแต่ละทัวร์ก็จะสรรหามี่พักระดับ 5 ดาว 6 ดาว เชนโรงแรมดัง ๆ ต่าง ๆ เข้ามาไว้ในโปรแกรม ซึ่งก็ทำให้ราคาทัวร์สูงเข้าไปอีก ทั้ง ๆ ที่ สัดส่วนการใช้ชีวิตในต่างแดน ภายในโรงแรมอันหรูหราไฮโซ แทบจะไม่ถึง 40% เลย เพราะต้องตื่นแต่เช้าและกลับดึก ไม่ทราบว่าเป็นเพราะทัวร์เอง หรือบริษัททัวร์สำรวจมาแล้วว่า คนไทยร้อยละ.........จะต้องนอนโรงแรมไฮโซเท่านั้น ถึงจะสามารถเรียกเงินจากกระเป๋าคนไทยได้
มาถึงพฤติกรรมที่ 5 ผมคงต้องขอจบแค่นี้แล้วหล่ะครับ เพราะนึกไม่ออกแล้วว่ามีอะไรอีก อาจจะต้องรบกวนคนอื่น ๆ ที่มีประสบการณ์มากกว่าผม ลองนึกดูว่ามีนอกเหนือจากนี้ หรือผมคิดผิด ก็เสริมได้นะครับ
ปล.ถ้าผมเขียนแล้ว ไม่ใช่ความเป็นจริง ก็ขออภัยด้วยครับ |
วันที่ 5 เม.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,283 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,154 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,154 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 19,981 ครั้ง |
เปิดอ่าน 55,527 ครั้ง |
เปิดอ่าน 80,455 ครั้ง |
เปิดอ่าน 17,225 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,004 ครั้ง |
|
|