“สมพงษ์”ชี้ที่ผ่านมาการซ้ำชั้นเป็นผลร้ายเชิงคุณภาพ เผยเหตุครูไม่ให้เด็กตกซ้ำชั้น เพราะถูกตำหนิ ส่งผลปล่อยเด็กผ่านแบบไร้คุณภาพ แนะพิจารณาให้ดีก่อนใช้ ชี้ควรเป็นวิธีสุดท้าย ครูต้องสอนให้เต็มที่ก่อน
วันนี้ (3 ธ.ค.) ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของการตกซ้ำชั้น เพราะเชื่อว่าจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เด็กว่า สาเหตุที่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาไม่มีเด็กตกซ้ำชั้นเลย เพราะเมื่อครูให้เด็กตกซ้ำชั้นก็จะโดนเพ่งเล็ง และถูกตำหนิจากผู้บริหารว่า สอนไม่ดี จึงมีการปล่อยเด็กกันทั้งประเทศ ไม่ว่าเด็กจะอ่านออกหรือไม่ออก คิดเลขเป็นหรือไม่ ติดศูนย์ ติด ร ซ่อมเสริมแล้วก็ปล่อยผ่าน ซ่อมเสริมกันแบบลวกๆ ไม่ได้ทำกันอย่างจริงจัง เด็กจึงถูกปล่อยปละละเลยเชิงคุณภาพมาตั้งแต่ระดับประถมศึกษา และทิ้งให้เป็นภาระต่อไปในระดับที่สูงขึ้น ดังนั้นที่ผ่านมาเรื่องการตกซ้ำชั้นจึงกลายเป็นผลร้ายในเชิงคุณภาพมากกว่าผลดี ทั้งนี้ในหลักการการให้เด็กตกซ้ำชั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ประเทศไทยเมื่อนำไปสู่การปฏิบัติกลับเกิดปัญหา เด็กไม่ผ่านครูก็มีความผิด
“หากจะนำการตกซ้ำชั้นมาใช้อีกครั้ง ต้องพิจารณาให้ดี เพราะเด็กที่ตกซ้ำชั้นอาจเกิดบาดแผลในใจ เป็นปมด้อย ถูกเพื่อนล้อเลียน และอาจเกิดปัญหาเมื่ออยู่ในโรงเรียน ดังนั้นก่อนนำมาใช้ต้องระมัดระวัง ควรศึกษาให้ดีว่า มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร อันไหนมีผลดีกว่ากัน แต่ผมยังยืนยันว่า ปัจจุบันการที่ปล่อยเด็กไม่ให้ตกซ้ำชั้น มีผลร้ายเรื้อรังกับคุณภาพการศึกษาของประเทศ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงอุดมศึกษา”ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่า วิธีการให้เด็กตกซ้ำชั้นควรเป็นวิธีการสุดท้าย ครูต้องสอนซ่อมเสริมอย่างดีและเต็มที่ก่อน ซึ่งหากเด็กไปไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องให้เรียนซ้ำชั้น.
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 3 ธันวาคม 2558