พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยกรณีมีข่าวสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ตรวจสอบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หลังไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่เสนอให้ดำเนิน คดีอาญาข้อหาฉ้อโกงกับผู้เกี่ยวข้องที่อนุมัติให้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ซื้อตั๋วสัญญากับ บริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็จ กรุ๊ป จำกัด ในขณะที่ ศธ.ไปแจ้งความดำเนินคดีข้อหาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และทำลายตราประทับหรือเครื่องหมายอันเจ้าพนักงานได้ประทับหรือหมายไว้ในการปลอมแปลงตั๋วสัญญาว่า ตนจะนำเรื่องนี้กลับมาดูด้วยตนเองว่ามีการแจ้งความผิดหรือไม่ และฝ่ายกฎหมายของ สกสค.เองก็ต้องกลับไปดูว่าที่ถูกที่ควรเป็นอย่างไร
“ยอมรับว่าการดำเนินการที่ผ่านมามีความล่าช้า ตอนนี้ผมกำลังจ้องบางคนที่กำลังดึงเกม แต่จะทำอะไรยังไม่บอก ส่วนจะมีการแจ้งความเพิ่มหรือไม่นั้นต้องดูก่อน การแจ้งความเอาผิดกับใครต้องดูให้ดี โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ แต่ยืนยันว่าใครทำผิดจะไม่มีการละเว้น ส่วนที่มีข่าวว่าอดีตบิ๊ก สกสค.ที่ถูกดำเนินคดี 1 รายหลบหนีออกนอกประเทศแล้วนั้นยังไม่ทราบ ตอนนี้ศาลยังไม่ตัดสิน ถ้าหนีจริงเรียกว่ากินปูนร้อนท้อง อยู่ได้ก็อยู่ไปแต่ถ้าหลบไปอยู่ในประเทศที่มีข้อตกลงแลกเปลี่ยนผู้ร้ายข้ามแดนก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย” รมว.ศึกษาธิการกล่าวและว่า ส่วนกรณีทนายความนายสมมาตร์ มีศิลป์ อดีตผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.จะใช้สิทธิทางศาล ขอความเป็นธรรมหลังบอร์ด สกสค. มีมติยกเลิกสัญญาจ้างว่า ถือเป็นสิทธิตามขั้นตอน ซึ่งเดิมนายสมมาตร์ ได้ท้วงติงว่าช่วงเวลาการประเมินว่าไม่เหมาะสม เพราะผ่านการดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ปี 2557 แต่บอร์ดได้พิจารณาแล้วว่าในสัญญาจ้างไม่ได้ระบุช่วงเวลาการประเมินไว้ และการเลิกจ้างเพราะไม่ผ่านการประเมินก็ยึดตามเงื่อนไขสัญญาจ้าง.
ที่มา ไทยรัฐ วันที่ 1 ธันวาคม 2558