นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.เตรียมหารือกับนาย อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ถึงแนวทางการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) โดยเฉพาะธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เนื่องจากมีกำไรจากผลประกอบการแต่ละปีจำนวนมาก จึงอยากให้นำกำไรส่วนนี้มาช่วยเหลือประชาชนที่เป็นลูกค้าของธนาคาร เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (เอ็มอาร์อาร์) ที่ปัจจุบันมีอัตราเฉลี่ย 7% ลง หรือมีผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงการบริการของธนาคาร
ทั้งนี้ แนวทางการจัดตั้งแบงก์รัฐต้องการให้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ โดยไม่ควรดำเนินงานที่มีผลประกอบการหรือกำไรจำนวนมากเหมือนธนาคารพาณิชย์ทั่วไป โดยเชื่อว่า หากทั้งสองธนาคารสามารถช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงแหล่งเงินด้วยด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ จะช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้อย่างแน่นอน
"ออมสินและ ธ.ก.ส.ไม่ควรเน้นการดำเนินงานที่แสวงหากำไรมากเกินไป แต่นำกำไรเข้ามาช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ที่ปัจจุบันมีเฉลี่ยอยู่ที่ 7% นั้น มองว่าสูงเกินไป หากปรับลดลงได้จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มขึ้น หรือจะดำเนินการในรูปแบบอื่นก็ได้ เช่น การคิดสินเชื่อ ให้กับประชาชน โดยไม่ต้องคิดอัตรา ดอกเบี้ยแพงๆ หรือจะมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้กับประชาชนที่เป็นลูกค้าธนาคาร" นายกฤษฎา กล่าว
นอกจากนี้ รมว.คลัง มีความเป็นห่วงปัญหาภัยแล้งปี 2559 โดยสั่งการให้ธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส.หามาตรการรองรับ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เป็นลูกค้าของทั้งสองธนาคารให้สามารถประกอบอาชีพและดำรงชีวิตประจำวัน ได้ ซึ่งที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ก็มีสินเชื่อให้ กับเกษตรกรที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ เพาะปลูกพืชชนิดอื่นแทนข้าวที่ได้รับจากปัญหาภัยแล้ง
ที่มา โพสต์ทูเดย์ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2558