จากกรณีบริษัทและร้านค้าหลายแห่งร้องเรียนไปยังคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ว่ามีผู้บริหารโรงเรียนหรือบุคคลใกล้ชิดกับผู้บริหาร มีพฤติกรรมส่อไปในลักษณะทุจริต โดยบังคับให้บริษัทเอกชนหรือห้างร้านต้องจ่ายเงินก่อนร้อยละ 35 แลกกับใบสั่งซื้อการจัดซื้อครุภัณฑ์การศึกษาจากโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีงบประมาณ 2559 จำนวน 806,782,500 ล้านบาท โดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ กรรมการและเลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ขอให้สพฐ. ตรวจสอบ หากพบว่ากระทำผิดจริงขอให้เอาผิดกับผู้บริหารโรงเรียนที่มีพฤติกรรมดังกล่าวนั้น
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้เน้นย้ำแต่ต้นแล้วว่างบฯ จัดซื้อครุภัณฑ์ดังกล่าวเป็นงบฯ กระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล ต้องดำเนินงานอย่างรอบคอบที่สุด และโปร่งใส ซึ่งตนได้ทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) 225 เขตทั่วประเทศ เพื่อลงไปตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว ทั้งการทำสัญญากับบริษัทว่าทำเรียบร้อยหรือไม่ หลังทำสัญญาแล้วดำเนินงานตามสัญญาทั้งการก่อสร้าง ปรับปรุง และซ่อมแซมหรือไม่ เพราะตามหลักการแล้วสพท. ต้องเข้าไปตรวจสอบภาพรวมทั้งหมด
"หากสพท. พบว่าโรงเรียนใดมีปัญหาก็ให้ระงับการเบิกจ่ายเงินทั้งหมด แล้วเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนรายงานมาให้สพฐ. ซึ่งคำสั่งนี้ไม่ได้ระบุเฉพาะบางพื้นที่ แต่ให้ทุกเขตพื้นที่ลงไปร่วมตรวจสอบ ถือเป็นการซักซ้อมทำความเข้าใจ เน้นย้ำให้ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ตามระเบียบที่กำหนดเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้ส่งหนังสือเวียนไปแล้ว 2 ฉบับด้วยกัน โดยเฉพาะฉบับที่สองนี้เป็นการกำชับแนวปฏิบัติว่าก่อนเบิกจ่ายเงิน ต้องตรวจสอบความถูกต้องของสัญญาก่อน" นายการุณกล่าว
ที่มา ข่าวสด ฉบับวันที่ 27 พ.ย. 2558 (กรอบบ่าย)