ภตช.แฉ!ผอ.ร.ร.เรียกรับผลประโยชน์จัดซื้อจัดจ้าง ครุภัณฑ์สพฐ.มูลค่า 806 ล้าน จี้“รมว.ศธ.” ใช้อำนาจสั่ง“เลขาธิการกพฐ.”ให้“ผอ.เขตพื้นที่ฯ” ตั้งคกก.สอบข้อเท็จจริง
23พ.ย.2558 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กรรมการและเลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) เปิดเผย “คม ชัด ลึก” ว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากบริษัทและร้านค้าหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา พิษณุโลก อุตรดิตถ์ พัทลุง ชุมพร และจังหงัดอื่นๆ ว่าผู้บริหารโรงเรียนหรือบุคลากรที่ใกล้ชิดผู้บริหารร.ร.เรียกรับค่าคอรัปชั่น แถมบังคับให้บริษัทเอกชนหรือห้างร้านต้องจ่ายเงินก่อนร้อยละ 35 เพื่อแลกกับใบสั่งซื้อจากโรงเรียนโดยวิธีตกลงราคา เป็นช่องว่างให้ผู้บริหารร.ร.หรือคนใกล้ชิดหาผลประโยชน์จากเงินส่วนต่างจากร้านค้า ซึ่งร้านค้าเหล่านี้ทนไม่ไหว ที่ถูกข้าราชการบางรายเรียกรับผลประโยชน์จนลึมคำว่าจริยธรรมคุณธรรม และไม่คำถึงนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ว่าประเทศไทยต้องบริหารงานด้วยความโปร่งใส ปราศจากการทุจริตคอรัปชั่น
“ร้านค้าร้องเรียนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.)มาแก้ไขหรือสั่งการให้ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)สั่งให้ผู้บริหารทั้ง 225 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)ให้หามาตรการเข้าไปตรวจสอบ หรือตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อเอาผิดกับผู้บริหารร.ร. ที่เรียกรับผลประโยชน์จากการจัดซื้อครุภัณฑ์การศึกษาสพฐ. ปีงบปประมาณ 2559 จำนวน 806,782,500 บาท จากงบประมาณค่าครุภัณฑ์ทั้งหมด 1,241,285,000 บาท ในการจัดซื้อครุภัณฑ์จำนวน 10 รายการ ที่มีการเรียกรับผลประโยชน์ร้อยละ 35 คิดเป็นเงิน 282,373,875 บาท เพราะเกรงว่าร.ร.จะได้ครุภัณฑ์ด้อยคุณภาพครูและนักเรียนเสียโอกาส” เลขาธิการภตช.ระบุ
Advertisement
เลขาธิการ ภตช.กล่าวอีกว่า การจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ฯสพฐ. งบประมาณไม่เกิน 500,000 บาท เป็นไปตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐเร่งใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริหารร.ร.มีอำนาจในการดำเนินการได้ทันที่ ทำให้ผอ.ร.ร.บางแห่งฉกฉวยโอกาสเรียกรับเงินจากร้าค้า ซึ่งในอดีตมีการเรียนรับผลประโยชน์วงเงินร้อยละ 10 อยากวิงวอนรมว.ศธ.มาแลแลไม่ละสายตาเพราะเป็นการทำลายการศึกษาชาติ
ด้าน นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(เลขาธิการกพฐ.) ในฐานะที่กำกับดูแลสถานศึกษาศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)กล่าวในเรื่องเดียวกันนี้ว่า ตนขอเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ก่อน ถึงจะสามารถตอบได้ว่าขั้นตอนต่อไปจะต้องทำอย่างไร
ที่มา คม ชัด ลึก วันที่ 23 พฤศจิกายน 2558