พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเผยข้อมูลหนี้สินของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบที่มีสูงถึง 1.2 ล้านล้านบาท โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอขอให้ธนาคารออมสินลดอัตราดอกเบี้ยลงว่า การเจรจาให้ธนาคารออมสินปรับลดดอกเบี้ยเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาหนี้สินครู ซึ่งนอกจากวิธีการนี้แล้ว ยังต้องดูแนวทางอื่น ๆ ทั้งกติกาการกู้ในภาพรวม แหล่งเงินกู้ต่าง ๆ มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร อัตราดอกเบี้ยที่ครูต้องเสียในแต่ละแห่งว่าสูงเกินไปหรือไม่ เพื่อหาแนวทางแก้ไข ไม่ให้ครูต้องเป็นหนี้มากเกินไป และควรมีเงินคงเหลือในแต่ละเดือนให้เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิต ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น รวมถึงผู้อำนวยการโรงเรียนแต่ละแห่งต้องเข้ามาช่วยดูแลครูด้วย ส่วนการปรับลดวงเงินกู้ ช.พ.ค.จากเดิมรายละ 3 ล้านบาท เหลือ 6 แสนบาทนั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) วันที่ 20 พ.ย.นี้ น่าจะมีการหารือเรื่องดังกล่าวด้วย
Advertisement
ด้าน รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัด ศธ. กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงหลักการว่า ศธ.จะช่วยเหลือเจรจากับทางธนาคารออมสินเพื่อลดดอกเบี้ยให้แก่ครูที่เป็นหนี้ โดยจะเน้นคนที่มีวินัยทางการเงินที่ดี คือ จ่ายหนี้สม่ำเสมอก่อน ส่วนคนที่มีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก และมีการค้างชำระอยู่ก็ต้องหาวิธีการอื่นช่วยเหลือต่อไป โดยคนกลุ่มนี้ต้องเข้ามาหาและให้ข้อมูลที่แท้จริงด้วย เพื่อจะได้หาแนวทางช่วยเหลือที่ตรงจุด ดังนั้น ถ้าใครอยากให้ช่วยเหลือก็ต้องมาบอกข้อมูลทั้งหมด ไม่ใช่ไม่บอกเลยว่ากู้หนี้ไปทำอะไร มีความจำเป็นอะไร ขณะที่กติกากู้เงินก็ง่ายเกินไป และเท่าที่ทราบบางคนก็มีปัญหาเพราะเพื่อนเบี้ยวหนี้ไป ทำให้ต้องไปแบกรับภาระของเพื่อนอีก.
ที่มา เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 11 พ.ย. 2558 (กรอบบ่าย)