นายกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยฯ เห็นด้วยนโยบายลดเวลาเรียนศธ. ห่วงครูไทยติดการสอนเด็กแบบท่องจำ แนะเร่งพัฒนาครูสอนให้เด็กคิดเป็น
วันนี้ (9พ.ย.) ศ.ดร.สุพจน์ หารหนองบัว อดีตคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฐานะนายกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพราะเป็นแนวทางที่หลายประเทศทั่วโลกนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน โดยเน้นจัดกิจกรรมทักษะด้านต่างๆ ให้เด็กมากกว่าการอัดแน่นด้วยเนื้อหาวิชาการ ซึ่งการเรียนลักษณะนี้ จะช่วยให้เด็กคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาเป็น จึงถือเป็นนโยบายที่ดีที่จะช่วยพัฒนาระบบการศึกษาของไทย แต่ตนก็ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับการนำนโยบายไปปฏิบัติ เพราะต้องยอมรับว่าครูไทยยังติดอยู่กับการสอนแบบให้เด็กท่องจำ ครูจึงต้องปรับการสอนของตัวเองใหม่ โดยสอนให้เด็กเป็นทั้งผู้เสพ และผู้สร้างความรู้ไม่ใช่ท่องจำ หรือ เสพความรู้อย่างเดียว
Advertisement
“ถ้าจะทำให้นโยบายเกิดเป็นรูปธรรม เห็นผลชัดเจน ศธ.ต้องทำแบบครบวงจร ทั้งการพัฒนาครูให้เข้าใจหลักการของเรื่องที่จะสอน และสอนแต่หลักการไม่ใช่สอนเนื้อหาทั้งหมดในเล่ม ต้องตั้งโจทย์ให้เด็กไปศึกษาค้นคว้าคิดวิเคราะห์ และนำมาแลกเปลี่ยนในชั้นเรียน นอกจากนี้ต้องปรับระบบการประเมินวิทยฐานะของครู โดยต้องพิจารณาจากสิ่งที่ครูทำ กิจกรรมที่เพิ่มการเรียนรู้นอกห้องเรียนของเด็ก รวมทั้งต้องปรับระบบการคัดเลือกบุคคลเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ โดยข้อสอบที่ใช้ต้องเป็นแบบอัตนัยที่เด็กท่องจำไม่สามารถทำข้อสอบได้” ศ.ดร.สุพจน์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามในวันที่12 พ.ย.นี้สมาคมฯจะเข้าพบ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ เพื่อเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ให้สถานศึกษานำมาใช้จัดกิจกรรมหลังเลิกเรียนให้แก่เด็กต่อไป.
อ่านต่อที่ : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2558