จากข่าว โลกออนไลน์แชร์ สุดยอดคุณครู! ตรวจการบ้านลูกศิษย์ละเอียดยิบ ที่ครูบ้านนอกได้นำเสนอ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2558 เกี่ยวกับการที่สมาชิกทวิตเตอร์ แชร์โพสต์ สุดยอดคุณครู ที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ในการตรวจการบ้านนักเรียนโดยละเอียดทุกบรรทัด พร้อมทั้งคอมเมนต์อธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนได้อ่านอีกด้วย และมีผู้ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมอย่างมากมายไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ได้นำเสนอข่าวนี้อีกครั้ง พร้อมกับไปสัมภาษณ์ครูผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจการบ้านให้นักเรียนแบบละเอียดถี่ถ้วน และมานำเสนอต่อ ดังนี้ครับ
เปิดใจ“ครูตั้ง”เจ้าของวลีเด็ด ครูอ่านทุกตัวครูตรวจทุกคำ
แห่แชร์วิธีตรวจการบ้านสุดโหด แบบละเอียดยิบของ “ครูตั้ง” นักศึกษาฝึกสอนจาก มช. เจ้าของวลี “ครูอ่านทุกตัว ครูตรวจทุกคำ” ฉะการบ้านนักเรียน ใครมั่ว! ใครก๊อป! ครูไม่ตรวจ
กรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพจากผู้ใช้งานทวิตเตอร์ชื่อ minijomjammm ซึ่งเป็นภาพสมุดการบ้านของนักเรียน ที่มีครูคนหนึ่งเป็นผู้ตรวจ แต่การตรวจการบ้านของครูคนนี้เป็นการตรวจที่ไม่ธรรมดา เพราะมีการใส่ข้อความคอมเมนต์ในการบ้านของนักเรียนแบบละเอียดยิบ ใครก๊อปงานในอินเทอร์เน็ตมาส่ง ครูไม่ตรวจ นอกจากนี้ยังมีการอธิบายตัวอย่างการเขียนที่ถูกต้อง การวาดรูป และการใส่คำคมต่างๆ สอดแทรกเข้าไปในการบ้านของนักเรียนด้วย ซึ่งหลังภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความชื่นชมในความเอาใจใส่ของครูคนดังกล่าว ทั้งยังมีการแสดงความคิดเห็นกรณีการเข้มงวดในการตรวจการบ้านของครูผู้สอน และยังเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับครูรุ่นใหม่
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พ.ย. นายเทวฤทธิกร เป็งยังคำ นักศึกษาฝึกสอนคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ “ครูตั้ง” เจ้าของวลี “ครูอ่านทุกตัว ครูตรวจทุกคำ” ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า ตนเป็นครูฝึกสอนวิชาภาษาไทยอยู่ที่ รร.สารภีพิทยาคม จ.เชียงใหม่ โดยสอนนักเรียนชั้น ม.4 และ ม.6 ซึ่งก่อนจะมาสอน ตนได้ตั้งเป้าหมายกับตัวเองว่าอยากแก้ปัญหาการเขียนของนักเรียนโดยให้รู้จักค้นคว้าหาข้อมูล และอ่านให้มาก จึงมีการตั้งหัวข้อเป็นการบ้านให้นักเรียนเขียนงานมาส่งเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยให้เขียนตั้งแต่ 8-16-24-32 บรรทัด ตามลำดับ แต่การบ้านที่นักเรียนนำมาส่งมีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม เขียนผิด ก๊อปจากอินเทอร์เน็ต และอื่นๆ ตนจึงเขียนคอมเมนต์เข้าไปในการตรวจการบ้านถือเป็นการสอนและพูดคุยกับนักเรียน เนื่องจากในเวลาเรียนไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับเด็กทุกคน สำหรับหัวข้อหรือประเด็นในการเขียน ครูตั้งจะเน้นการเขียนลักษณะการวิจารณ์หรือการบรรยายความรู้สึก เพื่อให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น ได้ค้นคว้าหาข้อมูลและเขียนออกมาในภาษาของตนเอง ส่วนคนที่คัดลอกข้อความจากอินเทอร์เน็ตมาส่งครูจะไม่ตรวจ โดยครูตั้งจะมีวิธีการตรวจการบ้านแบบอ่านทุกตัวอักษร หากเขียนผิดก็บอกว่าผิดตรงไหน ควรแก้ไขอย่างไร พร้อมแนะนำการเขียนและการแสดงตัวอย่างประกอบให้เห็นภาพอย่างชัดเจนซึ่งผลจากการทำเช่นนี้ ทำให้เด็กเขียนได้ดียิ่งขึ้น รู้จักค้นคว้าหาข้อมูล ฝึกกระบวนการคิด ไม่ก๊อปงานมาส่ง เด็กที่ได้รับคำชื่นชมก็จะภูมิใจตัวเอง
นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้เด็กที่ไม่ชอบส่งงานหันมาสนใจทำการบ้านมากขึ้น ครูตั้งเปิดเผยว่าตนได้แรงบันดาลใจจากการตรวจงานแบบนี้มาจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ตนเรียนอยู่ ซึ่งตนได้รับคำคอมเมนต์ที่ละเอียดมากจึงทำให้รู้ว่างานของเราผิดตรงไหนอย่างไร จึงอยากใช้วีธีการสอนแบบนี้ด้วย ครูตั้งยังเล่าอีกว่าในสมัยเด็กได้เรียนกับครูที่เข้มงวดมาตลอดจึงอย่างเป็นครูเช่นนั้น ตนมองว่า การเข้มงวดทำให้เราทำงานเป็น ได้รู้จักค้นคว้า ได้เรียนรู้ความผิดพลาด
ถามว่าเหนื่อยไหมที่เราต้องเอาเวลามานั่งตรวจการบ้านเด็กแบบละเอียดเช่นนี้ ครูตั้งบอกว่าเหนื่อยแต่ขึ้นชื่อว่า “ครู” มันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ การตรวจการบ้านสุดโหดเช่นนี้อาจทำให้นักเรียนบางคน ไม่ชอบครู ครูตั้งบอกว่าการเป็นครู เมื่อเด็กทำอะไรอย่าเพิ่งไปโกรธเด็ก ให้ดูที่ตัวเองก่อนว่าทำดีแล้วหรือยังค่อยไปด่าเด็ก ควรทำตัวให้น่านับถือเพราะเราหวังดีกับเด็กถึงเข้มงวด และอยากให้เด็กทุกคนตั้งใจเรียนให้เต็มที่ เข้าเรียนตรงเวลา และรู้จักแบ่งเวลาในการทำงานและกิจกรรมอื่นๆให้ดีด้วย
อ่านต่อที่ : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2558