"การเรียนในห้องยังเหมือนเดิม เพียงแต่ครูต้องสอนให้แน่นขึ้น หากในเวลาเรียนไม่พอ หลัง 14.00 น.เอามาติวอีกก็ได้ โดยเฉพาะเด็กสอบตกจะได้ไม่ต้องไปติวข้างนอก ไม่ใช่สักแต่ลดเวลาเรียนกลับบ้าน แล้วครูไปหาประโยชน์ข้างนอก"
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงมาตรการ"ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" ว่า ทุกคนเป็นกังวล แต่ทุกคนไม่เอาข้อมูลทั้งหมดไปลง นำเอาจุดอ่อนไปตีเป็นประเด็น การลดเวลาเรียนไม่ใช่ให้เด็กกลับบ้าน แต่ใช้เวลาช่วง 14.00 น.ไปแล้วมาจัดระเบียบใหม่ ซึ่งหลักวิชาการสอนเวลาตามนี้อยู่แล้ว ซึ่งเด็กสามารถสอบได้อย่างนี้ทุกวันนี้ก็เท่าเดิม หรือแย่กว่าเดิมก็ไม่รู้ เราจึงต้องจัดระเบียบช่วงบ่ายว่าจะทำอะไร ไม่ใช่ว่าสั่งให้ไปลดเวลาเรียน แล้วจะไปทำอะไรก็ทำ
อย่างที่หลายคนเรียกร้องเข้ามา ครูบางคนเขียนหนังสือร้องเรียนมาที่หนังสือพิมพ์ ว่า "สั่งมาแบบนี้จะทำอย่างไร เพราะไม่มีความรู้" ก็เพราะไม่ฟังกัน สื่อก็ไม่ช่วย เขามีเมนูกิจกรรมไปให้เลือก 4 กลุ่ม และวันนี้สมัครไป 4 พันกว่าโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนเหล่านี้เลือกกลุ่มกิจกรรมที่สามารถสอนได้ ซึ่งจะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะเพิ่มการเรียนรู้แก่นักเรียน ส่วนด้านวิชาการไม่ต้องกลัว เพราะเวลาเรียนของเดิมก็ได้เวลา 14.00 น.ไม่ใช่ว่ากิจกรรมเหล่านี้จะทำให้คะแนนตก มีแต่คะแนนจะเพิ่มขึ้น เพราะว่าคิดเป็นไม่ใช่เป็นแต่ท่องอย่างเดียวแล้วไปสอบ เป็นการสอนให้รู้จักการทำงาน วิธีนำวิชาการมาปฏิบัติ ไม่ใช่สอนค่านิยม 12 ประการ 2 ชั่วโมง อันนั้นเป็นเรื่องของจิตสำนึกไม่ต้องไปสอน แค่เขียนให้อ่านแล้วเขาทำตอบตัวเองก็ได้แล้ว ไม่ต้องบังคับ แต่คนเดือดร้อนคือสังคม ในเมื่อเขาไม่ทำก็เดือดร้อนต่อสังคม คิดสอนคนแบบนี้บ้าง ถ้าท่านไม่ช่วยตนก็ไปไม่ได้หมด
นายกฯ กล่าวต่อว่า ช่วงนี้จะมีการประเมิน จัดชุดประเมิน 300 ชุด จัดครูนำร่อง วิทยากรนำร่องว่าการสอนตามเมนูสอนอย่างไร ตำราก็ร่างไว้ให้ คู่มือก็มี เขาไม่ได้คิดห่วยๆออกมาแล้วก็สั่ง หรือดีที่สุด คือไม่ต้องสั่งอะไรปล่อยอยู่เฉยๆ มันถึงเป็นอย่างนี้ระบบการศึกษาที่ผ่านมา เพราะคนนำมันไม่ได้คิดแบบนี้ ตนไม่อยากโทษข้าราชการ เขาทำตามที่นโยบาย ถ้านโยบายไม่ดีเขาก็ทำแบบของเขาตามหน้าที่ พ.ร.บ.ของทุกหน่วยงานมีหมด วันนี้ ตนต้องไปบูรณาการรวบมาให้ได้ ให้คิดด้วยกัน เมื่อก่อนทำเป็นแท่งหมด ถ้าไม่สั่งก็จะเป็นแบบเดิมอย่าไปหวังว่าจะดีขึ้น เพราะฉะนั้นจะต้องเอาหัวข้อการประเมินของต่างประเทศที่เขาประเมินไว้ท้ายๆ ในอาเซียนก็เกือบท้าย ในโลกก็เกือบท้ายของ 60 ประเทศ ไม่ได้ต้องเอามาดูว่าเราผิดตรงไหน เราไม่ดีตรงไหนก็แก้ตรงนั้น ไม่ใช่แก้เพื่อเขา แต่แก้เพื่อการศึกษาของเรา
นายกฯ กล่าวต่อว่า การเรียนในห้องยังเหมือนเดิม เพียงแต่ครูต้องสอนให้แน่นขึ้น หากในเวลาเรียนไม่พอ หลัง 14.00 น.เอามาติวอีกก็ได้ โดยเฉพาะเด็กสอบตกจะได้ไม่ต้องไปติวข้างนอก ไม่ใช่สักแต่ลดเวลาเรียนกลับบ้าน แล้วครูไปหาประโยชน์ข้างนอก ถ้าสั่งแบบนั้นคงไม่ใช่ตน ไม่ใช่รัฐบาลนี้ ที่จะสั่งชุ่ยๆ เราต้องเร่งรัดจากนี้ไปถึงเดือน ก.ค.60 มันจะทำให้สำเร็จไปได้บ้าง
"ให้ช่วยกันคิด ไม่ใช่ติตั้งแต่ต้น ที่กำลังคิดจะทำก็ไม่ได้ทำจะส่งต่อก็ไม่อยากส่งแล้วเบื่อ เพราะไม่รู้ว่าจะทำให้ใคร ทุกคนไม่ได้ต้องการ ทุกคนต้องการแต่ความขัดแย้ง ผมก็ทำแบบนั้นดีกว่ามั้ง ทำส่งๆ ไปเดี๋ยวก็เลือกตั้งแล้ว เพราะฉะนั้นอยากจะฝากให้ทุกคนคิดแบบที่ผมคิดว่า ปัญหาประเทศอยู่ที่ไหน แล้วจะให้ประเทศเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกสักกี่ปี ลูกหลานลำบากหรือไม่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ที่มา สยามรัฐ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2558