เมื่อวันที่ 3 พ.ย.58 ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผอ.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.)กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการศึกษาหรือซูเปอร์บอร์ดด้านการศึกษา ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้ปฏิรูประบบประเมินและประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับว่า สมศ.อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อมติออกมาเป็นอย่างไร สมศ.ก็ต้องปฏิบัติตามมตินั้น ทั้งนี้ การปฏิรูปการศึกษาเป็นความหวังของทุกคน จึงเป็นเรื่องดีหากรอให้การปฏิรูปมีความชัดเจนก่อน เพื่อให้การประกันคุณภาพการศึกษาสอดคล้องกัน ดังนั้น การประเมินคุณภาพภายนอกรอบ4 ของ สมศ.จะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องรอให้การปฏิรูปเสร็จเรียบร้อยก่อน
"สมศ.เกิดขึ้นมา 15 ปีแล้ว จึงเป็นโอกาสดีที่ระหว่างนี้เราจะได้ทบทวนและปฏิรูป สมศ. ไปพร้อมๆ กับการปฏิรูปการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องเครื่องมือ หลักเกณฑ์และตัวบ่งชี้ที่ใช้ประเมิน ซึ่งต้องวิเคราะห์ออกมาว่า มีอะไรบ้างที่ถูกต้องแล้ว และมีจุดใดที่ยังบกพร่อง เพราะที่ผ่านมา มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เข้ารับการประเมินค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันจะยกระดับมาตรฐานผู้ประเมินให้มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นด้วย"
ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวและว่า หลังจากนี้ต้องดำเนินการปรับแผนงบประมาณประจำปีงบฯ 2559 กันใหม่ เพราะแผนเดิมกำหนดว่าจะมีการประเมินรอบ 4 ตั้งแต่เดือน ม.ค.59 แต่ในเมื่อไม่ได้ประเมินตามที่กำหนดไว้ ก็ต้องมาวางแผนการทำงานกันใหม่ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง และใช้งบฯเท่าใด ซึ่งจะเสนอคณะกรรมการบริหารสมศ. พิจารณาภายในเดือน พ.ย.58 นี้ ก่อนเสนอ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ต่อไป
ที่มา สยามรัฐ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2558