ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ตั้งเป้า"ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้"ครบทุกรร.ปีหน้า


ข่าวการศึกษา 4 พ.ย. 2558 เวลา 06:42 น. เปิดอ่าน : 6,154 ครั้ง
ตั้งเป้า"ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้"ครบทุกรร.ปีหน้า

Advertisement

"ดาว์พงษ์" ตรวจการดำเนินนโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" วันแรก มีโรงเรียนนำร่อง 4.1 พันโรง ลั่นปีหน้าต้องเตรียมการให้ดี เพราะจะมีโรงเรียนเข้าร่วมจำนวนมาก ตั้งเป้าครบ 3 หมื่นโรงทั่วประเทศ ด้านเลขาฯ สพฐ.เผยตั้งทีมติดตามผลทุกเดือน นักเรียนขานรับบอกสนุกที่ได้ทำกิจกรรม ด้านนายกฯ พอใจผลตอบรับ หวังใช้ครบทุกโรงปีหน้าเช่นกัน
โรงเรียนวัดถนน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง จัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ สร้างรอยยิ้มความสุขสนุกสนานให้นักเรียน

ที่โรงเรียนอนุบาลปทุมธานี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) เดินทางตรวจเยี่ยมการเรียนการสอนของโรงเรียนอนุบาลปทุมธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนนำร่องตามนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ และเป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 พร้อมกันทั่วประเทศ

โดย พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวเชื่อว่าเด็กจะมีความสุข แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ ตนอยากรู้เรื่องผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กว่าจะดีขึ้นหรือไม่ หลังจากที่มีการจัดกิจกรรมตามนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ทั้งนี้ ตนไม่ห่วงโรงเรียนที่เข้าร่วมนำร่องทั้ง 4,100 โรง เพราะเป็นโรงเรียนที่มีความพร้อมและจะไปได้ดี แต่ห่วงโรงเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการในปีหน้าซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนมาก ดังนั้นจะต้องเร่งศึกษาโรงเรียนที่บริบทแตกต่างกัน ทั้งนี้ ตนตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายให้ได้ 1 หมื่นโรงก่อนเบื้องต้น หากขยายให้ครบทั้ง 3 หมื่นโรงทั่วประเทศในปีการศึกษา 2559 ได้ก็จะเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตาม ต้องตระหนักถึงความพร้อมของครูและโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กที่มีครูจำนวนน้อย อาจจะต้องมีการปรับรูปแบบการจัดการ แต่ยังคงยึดหลักการที่เด็กจะต้องได้ทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ดังนั้นจึงมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปดูความพร้อมของโรงเรียน หากโรงเรียนใดที่ครูไม่พร้อม สพฐ.อาจจะต้องมากำหนดรูปแบบการจัดกิจกรรมลงไปช่วย

"การลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้ผมเห็นปัญหาอย่างหนึ่งคือเรื่องของพื้นที่ ถือเป็นข้อจำกัดมากในโรงเรียนที่มีพื้นที่น้อย ก็มอบให้ สพฐ.นำไปศึกษาหาทางออกในการบริหารจัดการกิจกรรมที่ได้รับประโยชน์ ทั้งเฮด ฮาร์ต แฮนด์ และเฮลธ์ ของโรงเรียนพื้นที่น้อยด้วย" รมว.ศธ.กล่าว

ด้าน น.ส.สมทรง รอดแจ่ม ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปทุมธานี กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้นำนโยบายสู่การปฏิบัติ มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองนักเรียนได้ทราบ และได้รับความร่วมมือจากชุมชน โดยโรงเรียนมีเมนูกิจกรรมให้เด็กเลือก จำนวน 150 เมนู อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาโรงเรียนได้จัดกิจกรรมให้เด็กอยู่แล้ว ทั้งการสอนภาษาจีน ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ และการประดิษฐ์หุ่นยนต์ ซึ่งเคยได้รับรางวัลระดับประเทศมาแล้ว

ขณะที่นายการุณกล่าวว่า สพฐ.จะมีการติดตามประเมินผลเป็น 2 ส่วนคือ ระดับเขตพื้นที่การศึกษาและส่วนกลาง โดยจะมีทีมติดตามผลเดือนละครั้งและพัฒนาควบคู่กันไป จากนั้นเดือนเมษายน 2559 ซึ่งปิดภาคเรียนการศึกษา สพฐ.จะสรุปผลปัญหา อุปสรรคและความสำเร็จของโครงการเพื่อนำเสนอ รมว.ศธ.ก่อนที่จะมีการขยายผลต่อไป

ด.ช.ธิติวุฒิ เกตุเนียม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนอนุบาลปทุมธานี กล่าวว่า รู้สึกสนุกที่ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ให้ความสนใจ และก่อนเลือกกิจกรรมก็จะมีตัวอย่างกิจกรรมเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือก สำหรับตารางเรียนในภาคเรียนที่ 2 ก็ไม่ได้ต่างจากภาคเรียนที่ 1 มากนัก เช่น ภาคเรียนที่ 1 เรียนวิชาภาษาอังกฤษ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ในภาคเรียนที่ 2 เรียนวิชาภาษาอังกฤษ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งลดวิชาภาษาอังกฤษเสริมลง เป็นต้น

พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ที่เริ่มใช้เป็นวันแรก ได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนต่างๆ โดย ศธ.จะส่งชุดสมาร์ทเทรนเนอร์ จำนวน 300 ทีม ลงตรวจประเมินผลทั่วประเทศทุกสัปดาห์ ทุกเดือน และทุก 3 เดือน เพื่อนำข้อมูลกลับมาวิเคราะห์ว่าประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด และมีสิ่งใดที่ควรปรับปรุงแก้ไขบ้าง ส่วนนายกรัฐมนตรีพอใจที่ทุกฝ่ายให้การตอบรับนโยบายดังกล่าวเป็นอย่างดี และต้องการให้ขยายจำนวนโรงเรียนให้ครอบคลุมทุกโรงเรียนหากผลประเมินออกมาดี และยังย้ำว่าการเรียนในห้องเรียกว่าเรียนวิชาการ ส่วนเวลาช่วงบ่ายเรียกว่าเรียนรู้ ซึ่งหมายความว่านอกจากการเรียนในห้องด้านวิชาการเพื่อเพิ่มคุณวุฒิแล้ว เราจะต้องเรียนรู้การปฏิบัติควบคู่กับทฤษฎีไปด้วย จะได้ทำงานและจัดระเบียบความคิดให้เป็นระบบ สร้างสรรค์ ความรู้รอบตัว เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพในอนาคต

ที่จังหวัดปัตตานี ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์โรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองปัตตานี 5 โรง ที่ดำเนินตามนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เป็นวันแรก ปรากฏว่า ไม่ได้เข้าร่วมกับโครงการดังกล่าว เนื่องจากต้องคอยติดตามดูโรงเรียนนำร่องก่อนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งทางโรงเรียนเทศบาลพร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบาย ขณะที่จากการสอบถามครูในพื้นที่เปิดเผยว่า การลดเวลาเรียนของโรงเรียนต่างๆ นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะเด็กๆ จะได้มีเวลาส่วนตัวในการทบทวนการเรียนที่ผ่านมามากขึ้น โดยเฉพาะการเรียนรู้ภายนอก เช่น เรียนภาษาอาหรับเพิ่ม ซึ่งครูต้องเอื้อประโยชน์และให้เวลากับเด็กด้วย เมื่อเริ่มโครงการนี้ใหม่ ครูต้องติดตาม ต้องเสียสละ ถ้าปล่อยไป เด็กเข้าใจผิด มัวแต่ทำอย่างอื่น เด็กก็จะไม่ได้อะไร. 

 

ที่มา ไทยโพสต์ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2558


ตั้งเป้า"ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้"ครบทุกรร.ปีหน้า

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ว 18/2567 การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ผู้มีผลงานการสร้างและพัฒนานวัตกรรม เลื่อนเป็นเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ และวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ

ว 18/2567 การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ผู้มีผลงานการสร้างและพัฒนานวัตกรรม เลื่อนเป็นเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ และวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ

เปิดอ่าน 18,949 ☕ 6 ก.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญและวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
การดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญและวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
เปิดอ่าน 817 ☕ 16 ก.ค. 2567

สพฐ.รุกพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเด็กประถมฯ ปลื้ม เด็ก รร.คุณภาพ ผ่านเกณฑ์ A1 CEFR
สพฐ.รุกพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเด็กประถมฯ ปลื้ม เด็ก รร.คุณภาพ ผ่านเกณฑ์ A1 CEFR
เปิดอ่าน 240 ☕ 16 ก.ค. 2567

บอร์ดขับเคลื่อนคุณภาพผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานประชุมนัดแรก เป้าหมายยกระดับคุณภาพผู้เรียน ไม่เน้นปรับหลักสูตร
บอร์ดขับเคลื่อนคุณภาพผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานประชุมนัดแรก เป้าหมายยกระดับคุณภาพผู้เรียน ไม่เน้นปรับหลักสูตร
เปิดอ่าน 246 ☕ 16 ก.ค. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนต้นแบบลูกเสือ สู่ศตวรรษที่ 21 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนต้นแบบลูกเสือ สู่ศตวรรษที่ 21 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 1,535 ☕ 15 ก.ค. 2567

แนวทางการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณโครงการสนับสนุนและติดตามการดำเนินงานของสถานศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567
แนวทางการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณโครงการสนับสนุนและติดตามการดำเนินงานของสถานศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567
เปิดอ่าน 951 ☕ 13 ก.ค. 2567

การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา)
การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา)
เปิดอ่าน 1,860 ☕ 13 ก.ค. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ดาวน์โหลด! คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ดาวน์โหลด! คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
เปิดอ่าน 12,189 ครั้ง

กินโป๊ยกั้กใส่"พะโล้"สู้ไข้หวัด
กินโป๊ยกั้กใส่"พะโล้"สู้ไข้หวัด
เปิดอ่าน 10,772 ครั้ง

ลิ้นจี่ช่วยชาติ ผลไม้อร่อย ประโยชน์คับลูก
ลิ้นจี่ช่วยชาติ ผลไม้อร่อย ประโยชน์คับลูก
เปิดอ่าน 12,794 ครั้ง

โครงการหลวง 40 ชูไฮไลต์ พืช-ผลไม้ เพื่อสุขภาพ
โครงการหลวง 40 ชูไฮไลต์ พืช-ผลไม้ เพื่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 17,361 ครั้ง

4 เกาะที่น่าไป หลังเกษียณอายุ
4 เกาะที่น่าไป หลังเกษียณอายุ
เปิดอ่าน 17,039 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ