ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"พ่อแม่รังแกฉัน"(ใครกันจะรังแกลูกได้เท่าพ่อแม่)


บทความการศึกษา 2 พ.ย. 2558 เวลา 05:21 น. เปิดอ่าน : 14,327 ครั้ง
Advertisement

"พ่อแม่รังแกฉัน"(ใครกันจะรังแกลูกได้เท่าพ่อแม่)

Advertisement

/ ดร.แพง ชินพงศ์

พ่อแม่คือผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในชีวิตของลูก เพราะพ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิดและอบรมเลี้ยงดูลูกใกล้ชิดกับลูกมากที่สุด ดังนั้น การที่ลูกจะเติบโตขึ้นเป็นคนดีหรือคนไม่ดีหรือไม่อย่างไรนั้น พ่อแม่เป็นผู้ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

เมื่อกล่าวถึงพ่อแม่ที่อบรมเลี้ยงดูลูกไม่ดี เรามักจะนึกถึงพ่อแม่ที่ชอบดุด่า ตบตี กดขี่ข่มเหงและปฏิบัติอย่างอยุติธรรมกับลูก แต่นอกเหนือจากพ่อแม่ประเภทนี้ก็คือพ่อแม่ประเภท "พ่อแม่รังแกฉัน" ซึ่งมีอยู่หลายลักษณะอันพอจะยกตัวอย่างได้ ดังนี้

1.พ่อแม่ที่ตามใจลูกมากเกินไป หมายถึง พ่อแม่ที่ยอมให้ลูกทุกอย่าง ไม่ว่าลูกจะขออะไรก็ไม่เคยขัด แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมหรือไม่สมควรก็ตาม จนทำให้ลูกกลายเป็นคนมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็ต้องได้ ใครขัดใจไม่ได้เลย จึงทำให้เป็นคนที่มีนิสัยก้าวร้าวเห็นแก่ตัวและรักใครไม่เป็น

2.พ่อแม่ที่เห็นว่าลูกน่ารักไปหมด คือ พ่อแม่ที่รักลูกจนหลง มองว่าลูกของตนนั้นน่ารักกว่าใคร เก่งกว่าใคร ดีกว่าใคร มักเยินยอลูกอยู่ตลอดเวลาโดยไม่เคยว่ากล่าวตักเตือนลูกเวลาที่ลูกทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงส่งผลให้ลูกเติบโตมาเป็นคนที่ไม่เคยยอมรับความผิดของตนเอง ชอบโทษคนอื่นอยู่เสมอ มีนิสัยหลงตนเอง ใจดำ จนกลายเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นยากและน่ารังเกียจในสายตาของคนทั่วไป

3.พ่อแม่ที่ไม่ได้ส่งเสริมให้ลูกฉลาด ความฉลาดของคนเรานั้นขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม อันได้แก่การอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ ซึ่งมีพ่อแม่หลายคนที่ไม่ได้สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับลูกในการส่งเสริมทางด้านสติปัญญา ยกตัวอย่างเช่น การให้ลูกหมกมุ่นจดจ่ออยู่กับโทรทัศน์ สมาร์ทโฟนและแทปเล็ตมากเกินไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลให้เด็กขาดพัฒนาการในการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ทำให้แปลกแยกและไม่มีสังคม

4.พ่อแม่ที่ทอดทิ้งลูก มีพ่อแม่มากมายที่มุ่งทำแต่งานหรือยุ่งแต่เรื่องของตนเองโดยไม่มีเวลามาสนใจลูกและใช้วิธีชดเชยที่คิดว่าถูกต้องโดยการซื้อของเล่นให้หรือให้เงินลูกเยอะๆแทน แต่อย่าลืมว่าแท้ที่จริงแล้วของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับลูกก็คือพ่อแม่นั่นเอง พ่อแม่ที่ทอดทิ้งลูกจะทำให้ลูกรู้สึกว้าเหว่ ขาดความอบอุ่นและคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก ซึ่งส่งผลให้ลูกเติบโตขึ้นเป็นคนขี้เหงา เข้ากับคนอื่นได้ยากและขาดความเชื่อมั่นในตนเอง

5.พ่อแม่ที่เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี มีพ่อแม่มากมายที่มีความประพฤติที่ไม่เหมาะสม เช่น พูดจาหยาบคาย ขี้โกหก ดื่มสุรา เสพสารเสพติด ไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง สุรุ่ยสุร่าย ไม่รักษากฎหมาย ไม่ซื่อสัตย์ ฯลฯ ซึ่งเมื่อลูกได้เห็นความประพฤติเหล่านั้นก็จะซึมซับเข้าไปจนกลายเป็นพฤติกรรมของตนเองโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมีให้เห็นกันอยู่ทั่วไปว่าเด็กที่พูดจาหยาบคายมักมาจากครอบครัวที่พ่อแม่พูดคำด่าคำให้เขาได้ยินอยู่เป็นประจำ

มีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเรื่องหนึ่งซึ่งผู้เขียนอยากนำมาเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ชีวิตของคนๆหนึ่งจะดีชั่วเช่นไร พ่อแม่นับว่าเป็นผู้ที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก ซึ่งพ่อแม่รังแกฉันจากเรื่องนี้มีดังนี้

บอล (นามสมมติ) เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่เป็นนักธุรกิจมีฐานะร่ำรวยและเป็นเจ้าของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง บอลเป็นเด็กผู้ชายคนเดียวในครอบครัวคนจีนขนาดใหญ่ จึงทำให้ปู่ย่าตายายและพ่อแม่รักและทุ่มเทให้กับเขามากเมื่อเขาอยากได้อะไรพ่อแม่ก็จะหามาประเคนให้เขาหมดทุกอย่าง อีกทั้งไม่ว่าบอลจะทำอะไร ในสายตาของพ่อแม่และปู่ย่าตายายนั้นเป็นสิ่งที่น่ารักน่าเอ็นดูและถูกต้องเสมอ เมื่อถึงวัยที่บอลต้องเข้าโรงเรียน เขาได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่เป็นธุรกิจของครอบครัว วันหนึ่งเมื่อบอลกลับมาถึงบ้าน บอลได้มาฟ้องพ่อแม่ว่าถูกคุณครูดุ พ่อแม่ก็จะไปต่อว่าเอาเรื่องกับคุณครูคนนั้นทันที จนไม่มีครูคนไหนกล้าแตะต้องตักเตือนบอลอีกเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของเจ้าของโรงเรียน

ในที่สุดบอลก็ติดนิสัยเป็นคนเกเร เอาแต่ใจ ชอบแกล้งเพื่อนและทำตัวเป็นอันธพาลประจำโรงเรียนซึ่งพ่อแม่ก็ไม่เคยว่ากล่าวตักเตือนแต่อย่างใด ปล่อยให้บอลติดนิสัยเช่นนี้ไปจนโต จนกระทั่งบอลได้เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง บอลก็ยังคงทำตัวเป็นนักเลงหาเรื่องชกต่อยกับคนอื่นเสมอ ในที่สุดบอลก็ต้องออกจากมหาวิทยาลัยแห่งนั้นและย้ายที่เรียนไปเรื่อยๆ เพื่อนๆในรุ่นเดียวกันกับบอลเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วในขณะที่บอลเรียนไม่จบอะไรเลย บอลจึงขอพ่อแม่ไปเรียนที่ต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนทีเดียวที่พ่อแม่จะต้องตามใจเขาเช่นเคย

เมื่อบอลไปอยู่ต่างประเทศ เขาก็ใช้ชีวิตอย่างอิสระและทำตัวเป็นนักเลงเช่นที่เคยเป็นมา บอลเรียนอยู่ต่างประเทศได้ไม่ถึงปีก็มีเรื่องชกต่อยกับนักศึกษาที่นั่นจนไม่สามารถเรียนอยู่ที่นั่นได้อีกจึงต้องกลับมาเมืองไทย ในขณะนั้นบอลอายุ30ปีแล้ว แต่ยังเรียนไม่จบและไม่ได้ทำงานอะไรเลย ใช้ชีวิตเที่ยวเตร่เป็นนักเลงและสำมะเลเทเมาจนในที่สุดก็เข้าไปอยู่ในวังวนของยาเสพติดและผู้หญิงไม่ดีจนติดโรคเอดส์และเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 33 ปีเท่านั้น

จะเห็นได้ว่าเด็กจะเติบโตขึ้นเป็นคนดีหรือคนเลวนั้น การอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ดังนั้น การเป็นพ่อแม่ที่ดีนอกจากต้องเลี้ยงดูลูกด้วยความรักแล้ว ควรเอาใจใส่อบรมสั่งสอนให้ลูกเป็นคนรู้จักผิดชอบชั่วดีตั้งแต่เล็ก อีกทั้งส่งเสริมให้ลูกมีสติปัญญาที่ดีโดยการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีและเหมาะสมให้กับลูก

ที่สำคัญพ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกด้วย เพื่อที่จะไม่เกิดกรณี "พ่อแม่รังแกฉัน" ดังตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้นนั้น

 

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 


"พ่อแม่รังแกฉัน"(ใครกันจะรังแกลูกได้เท่าพ่อแม่)

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ราชภัฏกับธนาคาร

ราชภัฏกับธนาคาร


เปิดอ่าน 7,945 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ไขคำตอบ "โรงเรียน ครู อยู่อย่างไรในยุค4.0?"

ไขคำตอบ "โรงเรียน ครู อยู่อย่างไรในยุค4.0?"

เปิดอ่าน 41,371 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
มิติใหม่การศึกษา ... เดินหน้า TEPE Online พัฒนา “ครู” สนับสนุน “ครูตู้” พัฒนาเด็กไทยอย่างเท่าเทียม
มิติใหม่การศึกษา ... เดินหน้า TEPE Online พัฒนา “ครู” สนับสนุน “ครูตู้” พัฒนาเด็กไทยอย่างเท่าเทียม
เปิดอ่าน 12,897 ☕ คลิกอ่านเลย

ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา
ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา
เปิดอ่าน 8,761 ☕ คลิกอ่านเลย

หนี้สิน หนี้เสีย แก้ได้
หนี้สิน หนี้เสีย แก้ได้
เปิดอ่าน 10,350 ☕ คลิกอ่านเลย

วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้
เปิดอ่าน 13,380 ☕ คลิกอ่านเลย

ทำไมคนไทยปฏิรูปการศึกษาไม่ได้ผล
ทำไมคนไทยปฏิรูปการศึกษาไม่ได้ผล
เปิดอ่าน 15,708 ☕ คลิกอ่านเลย

ปฏิรูปการศึกษา ระบบการผลิตครู
ปฏิรูปการศึกษา ระบบการผลิตครู
เปิดอ่าน 14,555 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เชิญพิสูจน์!! ไฟไหม้ปริศนา คลิปแฉฝีมือคนในบ้าน (ชมคลิป)
เชิญพิสูจน์!! ไฟไหม้ปริศนา คลิปแฉฝีมือคนในบ้าน (ชมคลิป)
เปิดอ่าน 8,345 ครั้ง

เลือดกำเดาไหล
เลือดกำเดาไหล
เปิดอ่าน 17,133 ครั้ง

พระพุทธรูปในศิลปะไทยสมัยต่าง ๆ
พระพุทธรูปในศิลปะไทยสมัยต่าง ๆ
เปิดอ่าน 61,962 ครั้ง

[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"
[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"
เปิดอ่าน 9,866 ครั้ง

ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!
เปิดอ่าน 21,564 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ