คาดโทษหนักหากพบทุจริต ผู้บริหารหวั่นเบิกจ่ายวิธีตกลงราคารั่วไหล
นางผานิตย์ มีสุนทร รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาล โดยในส่วนของ ศธ.ได้รับงบประมาณดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว 5,681,959,900 บาท เพื่อใช้ในงานก่อสร้างใหม่ การปรับปรุงอาคารสถานที่ รวมถึงงานรื้อถอนต่างๆ แบ่งเป็นการดำเนินการด้วยวิธีตกลงราคา 4,044,023,900 บาท และวิธีการสอบราคา 1,637,936,000 บาท ซึ่งวิธีการตกลงราคาได้กำหนดให้จัดซื้อจัดจ้างภายในวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท สำหรับวิธีการสอบราคาต้องมีวงเงินตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไปแต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท ทั้งนี้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กำชับให้มีการเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด จึงกำหนดให้ ศธ.เบิกจ่ายงบฯ ที่ได้รับมา ดังนี้ ให้แต่ละจังหวัดทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างในเดือน ต.ค.นี้ให้ได้ร้อยละ 70 และมีเป้าหมายเบิกจ่ายงบฯให้ได้ร้อยละ 10 เดือน พ.ย.ให้แต่ละหน่วยงานทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างให้ได้ร้อยละ 90 เบิกจ่ายงบฯให้ได้อีกร้อยละ 40 และเดือน ธ.ค.ต้องทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างให้ครบร้อยละ 100 และเบิกจ่ายงบฯให้ได้ครบร้อยละ 100
“พล.อ.ดาว์พงษ์ เน้นย้ำให้หัวหน้าส่วนราชการกำกับดูแลหน่วยงานในสังกัดให้ปฏิบัติตามแผนการใช้จ่ายงบฯอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้คณะกรรมการติดตามการใช้งบฯนำผลการเบิกจ่ายงบฯเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการงบฯของส่วนราชการนั้นๆ ก่อนเสนอให้ รมว.ศธ.ได้ทราบ โดยคณะกรรมการติดตามฯจะประชุมหารือทุกเดือน หากหน่วยงานใดไม่สามารถปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดได้ หัวหน้าหน่วยงานนั้นๆจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ กรณีที่ถูกร้องเรียนและตรวจสอบพบว่ามีการบริหารจัดการงบฯไปในทางที่ไม่โปร่งใสจะต้องถูกดำเนินการตามระเบียบของทางราชการถึงที่สุด” รองปลัด ศธ. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สิ่งที่ผู้บริหาร ศธ.รู้สึกกังวลมากขณะนี้ก็คือ งบฯกระตุ้นเศรษฐกิจที่ให้ใช้วิธีตกลงราคา มีเม็ดเงินรวมกว่า 4,000 ล้านบาท อาจติดตามดูแลได้ยากเพราะมีโครงการที่ต้องดำเนินการจำนวนมาก อีกทั้งมีการเร่งรัดการใช้จ่ายให้เสร็จภายใน ธ.ค.นี้ หากมีการสมยอมร่วมกันอาจยากที่จะตรวจสอบ.
ที่มา ไทยรัฐ วันที่ 28 ตุลาคม 2558