ศธ.เด้ง"รังสรรค์"นั่งสำนักนายกฯ "กำจร" เผยเพื่อให้การบริหารงาน สพฐ.คล่องตัว ด้าน "รังสรรค์"รู้สึกงง โอดยังไม่รู้ทำผิดอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการได้ลงนามคำสั่งที่ ศธ.0203.4/973 เมื่อวันที่21 ต.ค.2558 เรื่องโอนบุคคลไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่เป็นอัตรากำลังชั่วคราว อ้างถึง 1.คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 16/2558 ลงวันที่25 พ.ค.2558 2.คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 19/2558 ลงวันที่25 มิ.ย.2558 ตามคำสั่งที่อ้างถึง1.หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้กำหนดมาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบและกำหนดอัตรากำลังชั่งคราวกรณีพิเศษในสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรองรับมาตรการดังกล่าวและตามคำสั่งอ้างถึง 2.ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการระงับการปฎิบัติราชการในตำแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราวและไปปฎิบัติราชการในตำแหน่งประจำสำนักงานปลัด ศธ.โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนเดิมนั้น
ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการมีความจำเป็นต้องขอใช้อัตรากำลังชั่วคราวเพื่อรับโอนนายรังสรรค์ มณีเล็ก ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่เนื่องจากตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นตำแหน่งประเภทผู้บริหารระดับสูงจำเป็นต้องมีผู้ปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับการกำหนดกรอบอัตราในตำแหน่งรองเลขาธิการกพฐ.เพียง 3 อัตราเมื่อนายรังสรรค์ ได้ถูกคำสั่งดังกล่าวจึงส่งผลให้การบริหารราชการได้รับผลกระทบโดยเฉพาะปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการปฎิรูปการศึกษาช่วงที่2 ดังนั้นศธ.พิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อช่วยแก้ปัญหาในการบริหาราชการของสพฐ.จึงมีความประสงค์ขอให้สำนักงานปลัด ศธ.พิจารณาโอนย้ายนายรังสรรค์ ไปดำรงตำแหน่งตามกรอบอัตรากำลังชั่วคราวที่ได้รับการกำหนดตำแหน่งในการรองรับมาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบตามคำสั่งคสช. เพื่อที่ ศธ.จะได้พิจารณาคัดเลือกข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งทดแทนต่อไป
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การออกคำสั่งดังกล่าวไม่ได้หมายความว่า นายรังสรรค์มีความผิด เพียงแต่ได้รับความชัดเจนจากสำนักนายกฯว่า สามารถรับโอนได้ เท่ากับว่า ขณะนี้ตำแหน่งรองเลขาธิการ กพฐ.ว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง ดังนั้นขั้นตอนต่อจากนี้ คือ เลขาธิการ กพฐ.จะพิจารณาคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสม เสนอให้ รมว.ศธ.พิจารณาต่อไป
ด้าน นายรังสรรค์ กล่าวว่า ทราบว่าจะมีการโอนย้ายตนไปสำนักนายกฯ แต่ยังไม่ทราบว่ามีคำสั่งออกมาหรือยัง ทั้งนี้ ส่วนตัวรู้สึกผิดหวังและเสียใจเพราะนับตั้งแต่มีคำสั่ง คสช.ให้มาปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวที่สำนักงานปลัด ศธ. เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็ไม่เคยบอกสาเหตุที่แท้จริงว่า ตนกระทำความผิดเรื่องใด จนถึงตอนนี้เป็นเวลา 4 เดือนแล้วก็ไม่เคยมีการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง หรือให้โอกาสตนได้ชี้แจงแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากให้ตนไปอยู่สำนักนายกฯ จริงก็รู้สึกว่าใจร้าย
“ทราบมาว่าในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้เรียกประชุมทุกกระทรวงที่มีคำสั่ง คสช.โยกย้ายข้าราชการ ซึ่งผมไม่ทราบว่า ปลัด ศธ.ได้เข้าร่วมหรือไม่ แต่ทราบว่ารองนายกฯได้ให้ทางเลือกในการดำเนินการแต่ละกระทรวงว่า 1.ให้รีบตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยเร็วหากไม่ทราบข้อมูลให้สอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) หากสอบสวนพบว่ามีความผิดก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอน แต่หากไม่ผิดให้รีบแจ้งไปยัง คสช.เพื่อยกเลิกคำสั่ง 2.ในช่วงที่มีการสอบสวนไม่ควรมีการโยกย้าย และ 3.หากเกิดความเสียหายร้ายแรงให้สามารถขอตำแหน่งสำรองที่สำนักนายกฯ ได้ ดังนั้นการมีคำสั่งโอนผมไปสำนักนายกฯ ทำให้ผมรู้สึกงง มากถามตัวเองว่าทำผิดอะไร ทำไมถึงผลักไสไล่ส่งผมนัก อีกทั้งคำสั่ง คสช.สั่งห้ามไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ใน สพฐ.เท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่ายังปฏิบัติงานในหน่วยงานอื่น ๆ ของ ศธ.ได้ และเวลานี้ระดับ 10 ในศธ.ยังว่างอีกหลายตำแหน่ง” นายรังสรรค์กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 26 ตุลาคม 2558