ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต นวนิยายที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ในทุกฉากตอน ฉาบซ้อนในเรื่องรักสามเส้าแสนธรรมดา ปรุงรสด้วยเสน่ห์รายละเอียดของความร่วมสมัยผ่านบุคลิก รสนิยม และการดำเนินชีวิตของตัวละครเรื่องนี้ ถ้าจะอ่านเอารสก็เพลินใจไปกับลีลาการใช้ภาษาที่ลื่นไหลด้วยวรรณศิลปงดงาม ฉายให้เห็นชะตาชีวิตของผู้คนอย่างเราๆ ท่านๆ ที่มีชีวิตอยู่กับความรัก ผิดหวัง กำพร้า แสวงหา ความจำเสื่อม บ้าอยู่กับการหลอกตัวเองและคนอื่น เพื่อรอให้จุดจบมาถึงในวันหนึ่ง ส่วนถ้าจะอ่านเอาเรื่อง ก็สามารถทำให้ขบคิด พินิจพิเคราะห์ และคาดเดาไปต่างๆได้อย่างฉงนฉงาย ว่าทำไมหนอเด็กกำพร้าเหล่านี้จึงมีชีวิตที่แหว่งวิ่นเสียเหลือเกิน อะไรที่ปะติดปะต่อชะตากรรมของทุกตัวละครเข้าด้วยกัน และถ้าอ่นแบบไม่คิดอะไรเลย ขอบอกว่าอย่างน้อยหนังสือเล่มนี้ก็จะทำให้รักดนตรี จนอดที่จะเสิร์ชหาในยูทูบมาเปิดคลอไม่ได้ เมื่อถึงฉากที่เล่าถึงอาหาร ก็อดที่จะคั่นหน้านั้นไว้ แล้วออกไปหาชิมตามให้ได้ เมื่อบรรยายถึงพฤกษานานา ก็อยากจะมีส่วนที่เป็นดงดอกไม้อย่างนั้นบ้าง ส่วนเมื่อกล่าวถึงการเดินทางก็ฉุกคิดตั้งคำถามกับตัวเองว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และความรู้สึกเมื่อปิดหน้าสุดท้ายลง ก็คือเราจะรักชีวิต
ล่าสุด ผลประกาศรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียนประจำปี 2558 (S.E.A. Write) ประเภทนวนิยาย ได้แก่ "ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต" จากสำนักพิมพ์มติชน ผลงานนวนิยายเล่มแรกโดยนักเขียนหญิง "วีรพร นิติประภา" ซึ่งถือว่าเป็นนักเขียนหญิงที่คว้ารางวัลซีไรต์ในรอบ 8 ปี โดยนักเขียนหญิงคนสุดท้ายที่ได้รางวัลซีไรต์คือ งามพรรณ เวชชาชีวะ จากผลงานความสุขของกะทิ เมื่อปี 2549
ทั้งนี้ นวนิยายที่เข้ารอบสุดท้าย 9 เล่ม ในปี 2558 ได้แก่ 1. กาหลมหรทึก ของ ปราปต์ 2. จุติ ของ อุทิศ เหมะมูล 3. เนรเทศ ของ ภู กระดาษ 4. ประเทศเหนือจริง ของ ปองวุฒิ 5. พิพิธภัณฑ์เสียง ของ จิรัฏฐ์ ประเสริฐทรัพย์ 6. รักในรอบบาป ของ เงาจันทร์ 7.ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต ของ วีรพร นิติประภา 8. หรือเป็นเราที่สูญหาย ของ จเด็จ กำจรเดช 9. หลงลบลืมสูญ ของ วิภาส ศรีทอง