สั่งลงโทษ "ชินภัทร" อดีตเลขาธิการ สพฐ. พร้อมพวก 6 คน กรณีทุจริตสอบครูผู้ช่วย หลังคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงสรุปมีความผิด มีทั้งโทษปลดออกและไล่ออก เผยผลสอบยึดตามหลักฐานดีเอสไอ พบเฉลยข้อสอบรั่วไหลและมีการทุจริตจริง
ชินภัทร ภูมิรัตน
นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวถึงกรณีการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงนายชินภัทร ภูมิรัตน อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (อดีตเลขาฯ กพฐ.) และพวกรวม 6 คน กรณีทุจริตการสอบเพื่อคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ว.12 ที่มีการสอบเมื่อปี 2557 ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงมีนายอภิชาต จีระวุฒิ อดีตที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้นำผลการสอบสวนกรณีดังกล่าวส่งให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พิจารณาแล้ว ซึ่ง พล.อ.ดาว์พงษ์สั่งการให้ต้นสังกัดดำเนินการลงโทษตามที่คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงเสนอมา
ปลัด ศธ.กล่าวว่า ในส่วนของนายชินภัทร ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับ 11 จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สพฐ. ทำหน้าที่แทน อ.ก.พ.กระทรวง ที่มี รมว.ศธ.เป็นประธาน ส่วนคนอื่นๆ ให้ อ.ก.พ.ของต้นสังกัด ซึ่งคือ สพฐ. และสำนักงานปลัด ศธ. เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเท่าที่ดูมีทั้งผู้ที่ได้รับโทษปลดออกและไล่ออก ในจำนวนนี้มีผู้ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วและยังไม่เกษียณอายุราชการ สำหรับผู้ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว หากถูกลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง ไล่ออก ก็จะต้องคืนบำเหน็จบำนาญที่ได้รับไปแล้ว แต่หากลงโทษปลดออกก็แค่เสียชื่อเสีย ไม่ต้องคืนบำเหน็จบำนาญ ส่วนใครจะได้รับโทษอย่างไรนั้น ในขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้
ด้านนายสุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว แต่เมื่อ รมว.ศธ.มีคำสั่งให้ต้นสังกัดดำเนินการลงโทษตามที่คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงเสนอมา ก็ต้องดำเนินการตามนั้น ซึ่งคงต้องไปดูว่าคณะกรรมการสอบสวนฯ เสนอให้ดำเนินการอย่างไรบ้าง ส่วนจะประชุม อ.ก.พ.สพฐ.เพื่อพิจารณาเรื่องนี้เมื่อไรนั้น ยังไม่มีการกำหนดวันที่แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสอบสวนกรณีดังกล่าว แบ่งเป็น 2 คำสั่ง คือ คำสั่งแรกให้สอบสวนวินัยร้ายแรงนายชินภัทรคนเดียว ซึ่งคำสั่งนี้ คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงได้เสนอให้ลงโทษปลดออกนายชินภัทร ส่วนคำสั่งที่ 2 ให้ทำการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงนายชินภัทร และพวกรวม 6 คน ซึ่งผลการสอบสวนระบุว่า เชื่อว่าน่าจะมีการทุจริตในการจัดสอบครูผู้ช่วย โดยของคณะกรรมการสอบสวนฯ ได้นำหลักฐานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มาประกอบการพิจารณา ทำให้พบว่าคำเฉลยข้อสอบได้รั่วไหลจริงๆ และมีการทุจริตการสอบครูผู้ช่วย จึงถือว่ามีความผิดและควรต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยเสนอให้ปลดออกข้าราชการสังกัด สพฐ. 2 ราย ส่วนนายชินภัทรและพวกที่เหลือให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาโทษของต้นสังกัด.
ที่มา ไทยโพสต์ วันที่ 23 ตุลาคม 2558