นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล รถสามล้อส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชนิดชั่วคราวที่ออกให้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ได้ขยายให้มี อายุ 2 ปี โดยสามารถขอเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชนิด 5 ปี ได้ตั้งแต่ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวครบ 1 ปี ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด 1 ปี ส่วนผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวไปก่อนวันที่ 23 มีนาคม 2558 นั้น ยังคงเป็นใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวที่มีอายุเพียง 1 ปี และต้องติดต่อขอเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (อายุ 5 ปี) ภายในกำหนดหรือก่อนใบอนุญาตหมดอายุ 60 วัน เช่นเดิม
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับเพิ่มอายุใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวดังกล่าวเป็นการเพิ่มประโยชน์และขยายโอกาสให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีเวลาในการดำเนินการขอเปลี่ยนชนิดใบอนุญาตมากขึ้น เช่น หากได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราวในวันที่ 23 มีนาคม 2558 ใบอนุญาตจะสิ้นอายุวันที่ 23 มีนาคม 2560 แต่สามารถขอเปลี่ยนชนิดจากประเภทชั่วคราวเป็นใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (อายุ 5 ปี) ได้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2559 จนถึงวันที่ 23 มีนาคม 2560 ซึ่งแสดงว่าผู้ได้รับใบอนุญาตมีระยะเวลาในการดำเนินการขอเปลี่ยนชนิดใบอนุญาตนานเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี โดยขณะนี้ยังคงจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมเท่าอัตราเดิม คือ 100 บาท
แต่เพื่อให้เป็นไปตามหลักการของค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่ต้องสอดคล้องกับอายุใบอนุญาตตามข้อเท็จจริง กรมการขนส่งทางบก ได้ขอแก้ไขอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวที่มีอายุ 2 ปี เป็นอัตรา 200 บาท ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคลชั่วคราว เป็น 100บาท และใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว เป็น 100 บาท ซึ่งขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวงเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างการพิจารณาตรวจร่างโดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
ทั้งนี้กระบวนการพิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมดังกล่าว คาดว่าต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาเพื่อให้การจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมมีความเหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ดังนั้นจนกว่ากฎกระทรวงฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขับรถชั่วคราวทั้ง 3 ชนิดยังคงจัดเก็บในอัตราค่าธรรมเนียมเดิม อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 18 ตุลาคม 2558