เมื่อวันที่ 13 ต.ค.นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หลังมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เรื่องแรกที่จะดำเนินการทำให้เป็นรูปธรรมคือการพัฒนาด้านการศึกษาให้มีมาตรฐานการศึกษาที่ดี ทำให้เยาวชนชาวแม่ฮ่องสอน ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนเทียบเท่าจังหวัดอื่น โดยเบื้องต้นตั้งวงเงินประมาณ 5 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนส่งเสริมด้านการศึกษาในทุกด้าน โดยเฉพาะการขาดอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ไม่ทันสมัย พร้อมแก้ปัญหาการขาดแคลนครู เนื่องจากข้าราชการครูที่มาบรรจุที่แม่ฮ่องสอน อยู่ได้ไม่นานก็ขอย้ายออกจากพื้นที่ไป ตรงนี้จึงอยากแก้ปัญหาโดยการสร้างครูที่เป็นบุคลากรคนแม่ฮ่องสอนเอง เพื่อจะสามารถยกระดับการศึกษาพัฒนาให้ก้าวไปได้ในปี 2559 ควบคู่กับการจัดหาครูเฉพาะทางในวิชาต่างประเทศให้มีการได้เรียนกับชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของภาษาโดยตรง รวมถึงการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักครูให้มีสภาพที่ดีขึ้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนกล่าวต่อไปอีกว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังมียุทธศาสตร์เกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว ยุทธศาสตร์การส่งเสริมพัฒนาอาชีพ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน และการส่งเสริมโครงการตามพระราชดำริทั้งหลายให้ดำเนินการไปอย่างลุล่วง ในส่วนของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยงบประมาณ 5 ล้านบาทที่ลงไปยังแต่ละตำบล ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงการอื่นที่ไม่สร้างอาชีพหรือรายได้ให้แก่ประชาชน มาเป็นโครงการที่ส่งเสริมอาชีพเพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนแทน โดยขณะนี้มีการเร่งรัดให้ผู้นำหน้าที่ออกไปทำประชาคม เพื่อที่จะโอนเงินลงไปหมู่บ้านได้ สำหรับงบอื่นที่มีวงเงินต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท ทางจังหวัดได้เร่งรัดให้ดำเนินการเบิกจ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันภายในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยยังมีนโยบายให้นายอำเภอซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการจัดซื้อจัดจ้างจัดทำป้ายโครงการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนในตำบลได้รับทราบ โดยโครงการต่างๆ ต้องผ่านคณะกรรมการระดับหมู่บ้าน อำเภอ และจังหวัด และมีการลิงก์ข้อมูลต่างๆ ไปทาง ป.ป.ช. เพื่อให้ทุกโครงการมีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้.
ที่มา ไทยรัฐ วันที่ 14 ตุลาคม 2558