ภาษาอังกฤษไม่แข็ง
เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน tulacom@gmail.com
เรื่องราวเดิมๆ ที่ได้ยินกันมาไม่น้อยกว่า 2 ทศวรรษในวงการศึกษาไทยที่ยังไม่แผ่วหายไปในทุกปีการศึกษา และเป็นนโยบายที่ต้องยกขึ้นมาให้ครูและสถานศึกษาในสังกัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน นำไปหาทางดำเนินการกันอย่างเข้มข้น น่าจะเป็นเรื่องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ที่ทำให้เด็กไทยและนักศึกษาไทย สามารถใช้ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลในการสื่อสารได้อย่างสง่างาม ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปลายปี 2558
หากนับเวลากันจริงๆ แล้ว เหลือเวลาเพียงแค่ประมาณ 2 เดือน เท่านั้น และดูเป็นความวิตกกังวลจนกลายเป็นความลุกร้อนรนของกระทรวงศึกษาธิการถึงให้หาฮีโร่ ดารา หรือบุคคลต้นแบบที่เริ่มต้นจากไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษเลย แต่สามารถเรียนรู้แล้วนำไปใช้งานได้จริง และประสบความสำเร็จเข้ามาเป็นตัวช่วย
น่าแปลกไหมที่เราก็เรียนภาษาอังกฤษมารวมเวลาแล้วน่าจะไม่น้อยกว่า 10 ปี ในสถานศึกษา บางคนเจอทั้งฝรั่งอาสาสมัครเจ้าของภาษาและครูไทยที่จบเอกอังกฤษโดยตรง แถมบางคนยังมีการกวดวิชาเพิ่มอีกด้วย แต่ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีสมกับที่ได้เล่าเรียนมานานใช้สื่อสารไม่ได้
แม้ว่าภาษาอังกฤษถูกจัดให้เป็น 1 ใน 5 วิชาหลักสำคัญ โดยกำหนดให้เด็กไทยเรียนภาษาอังกฤษอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่ปฐมวัยจนถึงระดับอุดมศึกษา แล้วก็ตามเถอะ ก็ต้องย้ำให้ยอมรับสภาพความจริงที่ว่า เด็กไทยอาจได้เรียนภาษาอังกฤษทุกวันก็จริง แต่ส่วนใหญ่เรียนไวยากรณ์ ขาดการนำไปฝึกไปใช้ในชีวิตประจำวัน แม้การเรียนการสอนในบางโรงเรียนจะมีห้องเรียนภาษาอังกฤษ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กเหล่านั้นจะพูดภาษาอังกฤษได้
นอกจากนี้ เรายังมีปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนครูภาษาอังกฤษที่จะมาสอนเด็ก จบเอกอังกฤษจริงๆ มีแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แม้แต่เวลาใน 1 คาบเรียนประมาณ 50 นาที จริงๆ แล้ว สอนจริงเรียนจริงมันไม่ถึง
ที่น่าเป็นห่วง คือ เด็กไทยที่ด้อยโอกาสในต่างจังหวัดอีกจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่ในชนบท ยิ่งโรงเรียนขนาดเล็กแวดล้อมด้วยความขาดแคลนสะสมทั้งครู งบประมาณ อุปกรณ์การเรียนการสอน รวมไปถึงขาดการเหลียวแลจากกระทรวงศึกษาธิการ ที่ออกเสียงขู่จะยุบอยู่ตลอดเวลา แล้วจะเอากำลังใจมาจากไหนอยากให้ศธ.ลองเชิญผู้สอนครูภาษาของสพฐ.ทั้งหลาย มาระดมความคิดและถอดรหัสกันสักครั้งสองครั้งดีไหม ว่าเหตุปัจจัยมาจากอะไรเพื่อจะได้เดินไปให้ถูกทิศทาง มากกว่านั่งสั่งการอยู่ในห้องเหมือนที่ผ่านมา
ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 12 ตุลาคม 2558