“การปลูกข่า” เกษตรกรจังหวัดสมุทรปราการสามารถทำร่วมกับการขุดบ่อเลี้ยงปลา เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์และง่ายต่อการดูแลรักษาเพราะไม่ต้องให้น้ำข่าบ่อย ซึ่งข่าสามารถดูดใช้น้ำจากบ่อเลี้ยงปลาไปใช้ได้เลย อีกทั้งการปลูกยังไม่มีการใช้สารเคมีที่เกิดผลกระทบต่อการเลี้ยงปลาที่เป็นอาชีพหลักและยังได้กำไรเพิ่มจากการขายผลผลิตข่าอีกด้วย
จังหวัดสมุทรปราการมีเกษตรกรปลูกข่าร่วมกับการเลี้ยงปลาโดยข่าที่นิยมปลูกเป็นข่าพันธุ์“หยวก” เนื่องจากเป็นที่ต้องการมากของตลาด โดยใช้เงินทุนเพียงช่วงแรกเป็นค่าพันธุ์ อยู่ที่กอละ 10 บาท หากปลูกในพื้นที่ 1 ไร่ ใช้พันธุ์ประมาณ 1,500 กอ นอกจากนี้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์รองก้นหลุม 50 กิโลกรัม คิดเป็นต้นทุนประมาณ 700 บาท ค่าแรงคนงาน 5 คน เป็นเงิน 1,500 บาท รวมแล้วลงทุนไม่เกิน 20,000 บาท (ไม่รวมค่าเตรียมดินกับขุดบ่อ) แต่สามารถเก็บผลผลิตได้นานถึง 10 ปี ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก
สำหรับการปลูกข่าเริ่มจากหาช่วงเวลาที่เหมาะสมคือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายนโดยปลูกข่าบริเวณบ่อเลี้ยงปลาจากนั้นเตรียมพันธุ์ เลือกเหง้าอ่อนที่มีการแทงยอดพร้อมเจริญเติบโตประมาณ 4-5 ต้น เตรียมหลุมปลูก ระยะ 1 x 1 เมตร กว้าง 40-50 เซนติเมตร ลึกประมาณ 10 เซนติเมตร หรือประมาณ 1 หน้าจอบ โดยปลูกแบบสลับฟันปลา
รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือ 1 กำมือ จากนั้นนำเหง้าข่าลงหลุมกลบดินให้เรียบร้อย ใช้เศษฟางคลุมเพื่อรักษาความชุ่มชื้น รดน้ำ 7-10 วัน/ครั้ง ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำ เนื่องจากข่าจะได้รับน้ำจากบริเวณบ่อปลาอยู่แล้ว การใส่ปุ๋ยจะใช้เพียงครั้งเดียวตอนรองก้นหลุม จากนั้นจะใส่หลังการเก็บเกี่ยว โดยใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (15-15-15 หรือ 16-16-16) ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด หรือปุ๋ยหมัก เพียง 1 กำมือเท่านั้น
ที่มาภาพจาก มติชนออนไลน์
สำหรับการเก็บเกี่ยวจะเลือกเก็บเฉพาะข่าอ่อนจำหน่าย เนื่องจากได้ราคาที่ดีกว่า โดยเก็บเมื่อข่ามีอายุ 8 เดือนนับจากการปลูก ซึ่งจะไม่ขุดทั้งกอหากแต่ขุดเฉพาะข่าอ่อนเท่านั้น ส่วนใบข่าที่ตัดออกนำไปกลบกอข่าเก่าแล้วใช้น้ำหมักชีวภาพราด ทิ้งไว้ 3-4 เดือน ก็ขุดข่าขายได้อีกครั้ง
ทั้งนี้เมื่อขุดข่าเสร็จแล้ว นำข่าไปล้าง ตัดแต่งให้สวยงาม แล้วนำไปแช่สารส้มประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นวิธีการล้างยางที่ไหลออกจากข่าทำให้ดูขาวมากขึ้น จากนั้นนำไปจำหน่ายได้เลย ซึ่งข่าสามารถเก็บผลผลิตได้ทุกวันแล้วแต่เกษตรกรและความพอใจของผู้ซื้อ หากขุด 15-20 กอ แล้วหมุนเวียนไปขุดกอใหม่จะทำให้ข่ามีการเจริญเติบโตดีและเก็บเกี่ยวข่าได้เป็นเวลานานอีกด้วย
ส่วนมูลค่าผลผลิตพื้นที่1ไร่ ประมาณ 1,500 กอ เก็บเกี่ยวได้ถึง 3 กิโลกรัม/กอ/ครั้ง หรือคิดเป็นผลผลิตทั้งหมด 4,500 กิโลกรัม วันหนึ่งเก็บข่าได้ 50 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 35 บาท คิดเป็นเงินทั้งหมด 1,750 บาท การปลูกข่าหลังจากการขุดครั้งแรกแล้วจะสามารถขุดได้อีกทุก ๆ 4 เดือน ดังนั้นใน 1 ปี จึงสามารถเก็บผลผลิตข่าได้ถึง 3 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 472,500 บาท/ไร่/ปี เลยทีเดียว
เรื่อง/ภาพ : สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรปราการ โทร. 02 389 2344
ที่มาจาก มติชนออนไลน์ วันที่ 9 ตุลาคม 2558