เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นางทัศนีย์ บัวคำ ประธานก่อตั้งสมาพันธ์เครือข่ายสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมไทย (สศสท.) กล่าวว่า จากที่มีการออก พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ปรับระบบข้าราชการจากซี เป็นระบบแท่ง ส่งผลให้มีการปรับอัตราเงินเดือนขั้นต่ำสูง และขั้นต่ำชั่วคราวของข้าราชการทุกประเภท ไม่สอดคล้องกับระบบบริหารงานบุคคลของข้าราชการและอัตราเงินเดือนที่ควรได้ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงเมื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับ โดยเฉพาะข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการและระดับชำนาญการที่มีความเหลื่อมล้ำ ไม่สอดคล้องกันและไม่มีความเป็นธรรม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขและชมรมนักวิชาการสาธารณสุข ในฐานะเป็นกำลังคนทางด้านสุขภาพที่ได้รับผลกระทบจาก พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน ปี 2551 ด้วยการยกเลิกระบบซี เป็นระบบแท่ง ได้ส่งหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเกี่ยวกับอัตราเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ ไปยังนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ วันที่ 9 ตุลาคม 2558 สมาพันธ์จะขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสะท้อนปัญหา ติดตามและทวงถามความคืบหน้า
นางทัศนีย์ กล่าวด้วยว่า อยากให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนและปรับปรุงอัตราเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของกลุ่มข้าราชการที่ได้รับผลกระทบให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงด้วยความเป็นธรรม พร้อมทั้งเร่งดำเนินการเยียวยาเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเกี่ยวกับอัตราเงินเดือน และสร้างความเป็นธรรมให้แก่ข้าราชการที่ถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งในการเยียวยาจะต้องดำเนินการ อาทิ ปรับปรุงอัตราเงินเดือนประเภทวิชาการระดับชำนาญการ และระดับปฏิบัติการ เป็นต้นมา ให้มีความสอดคล้องตามข้อเท็จจริงในการเลื่อนระดับของแต่ละตำแหน่ง มีความเท่าเทียมกับอัตราเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาระดับ คศ.1 (เทียบเท่าข้าราชการระดับ 3-5) และข้าราชการระดับชำนาญการ (เทียบเท่าข้าราชการระดับ 6-7) เป็นต้น
"สมาพันธ์มีวัตถุประสงค์ชัดเจนที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อร่วมขับเคลื่อนเรื่องนี้และช่วยกันแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำของข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นผลจากการเปลี่ยนระบบซี เป็นระบบเข้าแท่ง ตั้งแต่ปี 2551 ลุกลามจนถึงปัจจุบัน และปัญหาเหล่านี้ถูกเพิกเฉยไม่ได้รับการแก้ไขและเยียวยาใดๆ มา 7 ปี จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิของข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งข้าราชการเหล่านี้ถือเป็นกลไกหลักสำคัญที่จะดูแลและให้บริการประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี" นางทัศนีย์กล่าว
ที่มา คมชัดลึก ฉบับวันที่ 7 ต.ค. 2558 (กรอบบ่าย)