"ดาว์พงษ์"มอบ“กำจร”เจาะลึกเงินเหลือใช้หลังหักหนี้ข้าราชการครูรายคน สั่งเบรกการจ่ายหนี้แทน คิดช่วยสวัสดิการด้านอื่น พร้อมตั้งทีมดูงานองค์การค้าฯ
วันนี้ (5 ต.ค.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูว่า ตนได้มอบหมายให้ รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ไปดูบัญชีเงินเดือนข้าราชการครูในสังกัดศธ. รายบุคคลว่ามีการหักเงินเดือนชำระหนี้ในระบบทั้งในส่วนธนาคารสหกรณ์ออมทรัพย์ครู รวมถึงอื่น ๆ และมีเงินเดือนเหลือเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่าไหร่โดยจัดเป็นกลุ่มๆ เช่น เหลือเพื่อใช้จ่าย 50% เหลือเพื่อใช้จ่าย 30% เป็นต้น จากนั้นจะโฟกัสเจาะลึกให้ความช่วยเหลือในกลุ่มที่มีเงินเดือนเหลือใช้จ่ายน้อยๆก่อนส่วนจะช่วยเหลือในวิธีใดนั้นขอดูข้อมูลที่ชัดเจนก่อน แต่คงไม่ใช่การให้กู้ยืมเพื่อสร้างหนี้สินเพิ่ม
รมว.ศึกษาธิการกล่าวต่อไปว่า กองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา(ช.พ.ค.) ชำระหนี้แทนครูที่ค้างชำระเงินกู้นั้น ได้ให้สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) ทำหนังสือถึงธนาคารออมสิน เพื่อยุติการชำระหนี้แทนแล้วและให้นำเงินกองทุนฯมาส่งเสริมสวัสดิการทางด้านอื่นให้แก่ครูแทน เช่น ค่าเล่าเรียนบุตร เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังมอบให้นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ไปคิดหาวิธีการให้สวัสดิการทางด้านอื่นที่เป็นประโยชน์แก่ครู แทนการให้กู้ยืมเงิน
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการสะสางปัญหาของ สกสค.และองค์การค้า ของสกสค.นั้นขณะนี้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้ส่งผลการตรวจสอบสกสค.และองค์การค้าของสกสค. มาแล้ว ซึ่งก็จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คตร. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มาหารือกันเพื่อเดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนขององค์การค้า ของสกสค.ได้มอบให้นายธเนศพลธนบุณยวัฒน์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานของ รมว.ศึกษาธิการ ไปดูว่าจะทำอย่างไรถึงจะทำให้องค์การค้าของ สกสค.อยู่รอดได้ ส่วนจะถึงขั้นปรับโครงสร้างหรือไม่นั้นต้องดูรายละเอียดต่างๆให้ชัดเจนก่อน
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 5 ตุลาคม 2558