เปิดผลสำรวจสุดยอดครูประจำจังหวัด พบ 3 ปัจจัยส่งผลลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ
เปิดผลสำรวจสุดยอดครูประจำจังหวัด พบ 3 ปัจจัยที่ส่งผลให้ลูกศิษย์ประสบความสำเร็จในชีวิต “ปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับศิษย์-วิธีการสอนเน้นเข้าใจมากกว่าท่องจำ-สร้างแรงบันดาลใจถึงความสำเร็จ”
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ในงานพิธีพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 1 ปี 2558 และการประชุมสภาครูอาเซียนครั้งที่ 31 ในโอกาสวันครูโลก หัวข้อ “Creative and Productive Role of Teachers for ASEAN Community” โดยความร่วมมือของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยครูผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ทั้ง 11 ประเทศในอาเซียนและติมอร์-เลสเต ได้นำเสนอผลงานของแต่ละประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน พร้อมกับเข้าร่วมประชุมสภาครูอาเซียน
พร้อมกันนี้ได้มีพิธีมอบรางวัล “คุณากร ครูยิ่งคุณ และครูขวัญศิษย์” ซึ่งถือเป็นสุดยอดครูของแต่ละจังหวัดจากการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีประเทศไทย โดยการเสนอชื่อของสถานศึกษา ลูกศิษย์ องค์กรที่ส่งเสริมการเรียนรู้ และองค์กรที่มีการคัดเลือกครู
ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของครูผู้ได้รับรางวัลคุณากร ครูยิ่งคุณ และครูขวัญศิษย์ เรื่อง“ปัจจัยที่ทำให้ครูประสบความสำเร็จในการจัดการเรียนการสอน”จำนวนทั้งสิ้น 132 คน จากครูจำนวนทั้งสิ้น 164 คน พบว่า
ปัจจัยที่ครูคิดว่าทำให้ศิษย์ประสบความสำเร็จ
อันดับ 1 คือ ปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับศิษย์ 81% ตามด้วย
อันดับ 2 วิธีการสอนให้เข้าใจไม่ใช่ท่องจำ 53.5%
และ อันดับ 3 การสร้างแรงบัลดาลใจถึงความสำเร็จ 52%
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ครูประสบผลสำเร็จในการจัดการเรียนการสอน 5 อันดับแรกคือ
1. เตรียมการสอน
2. การพัฒนาองค์ความรู้เพื่อใช้ในการสอน/การออกแบบหลักสูตร
3. การทำงานร่วมกับลูกศิษย์แบบตัวต่อตัวรายบุคคล
4. แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนครูเพื่อพัฒนาการสอน
5. จัดกิจกรรมพิเศษต่างๆนอกเหนือจากการเรียนรู้ในชั้นเรียน
ส่วนปัจจัยที่ทำให้ครูประสบผลสำเร็จในการจัดการเรียนการสอนน้อยที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. จัดเตรียมเอกสารสำหรับงานประเมิน
2. จัดเตรียมเอกสารเพื่อจัดทำผลงานวิทยฐานะ
3. งานธุรการในโรงเรียน
4. การประชุม
5. การเตรียมเด็กเพื่อเข้าร่วมแข่งขันทักษะความรู้และทักษะวิชาการ
ข้อเสนอของครูในการปฏิรูปการศึกษา พบว่า
อันดับ 1 การพัฒนาปรับปรุงวิธีการสอนของครูให้หลากหลาย โดยใช้สื่อการสอน เทคนิควิธีการการสอน เพิ่มทักษะอาชีพ พัฒนาทางด้านการจัดการเรียนรู้คิดวิเคราะห์มากกว่าการท่องจำ 46%
อันดับ 2 การสร้างจิตวิญญาณและจรรยาบรรณของความเป็นครูอย่างต่อเนื่อง 45% และ
อันดับ 3 การสนับสนุนครูที่มีศักยภาพเป็นต้นแบบสำหรับครูอื่นและจัดทำเครือข่าย สร้างครูมืออาชีพ 42%
ที่มา สำนักข่าวอิศรา วันที่ 3 ตุลาคม 2558