"กมล"ลั่นต้องเป็นคลังสมองชาติ/ตีโจทย์แผนกศ.15ปีพัฒนาคนไทย
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.58 ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) เปิดเผยว่า หลังจากได้รับมอบหมายให้ดูงานสภาการศึกษา ตนได้เข้าไปรับนโยบายจาก พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ แล้ว โดย รมว.ศึกษาธิการ ได้ขอให้ สกศ.วางแผนการศึกษาแบบพลิกโฉม 360 องศา คือต้องเป็นแผนการศึกษาที่เห็นทิศทางของอนาคตชัดเจนว่า การศึกษาไทย จะมุ่งไปทางไหน และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เพราะที่ผ่านมาแผนการศึกษาไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติจริง เมื่อเขียนขึ้นมาก็กลายเป็นเอกสารอยู่ในกระดาษแผ่นเดียว ขณะที่ รมช.ศึกษาธิการ ให้นโยบายเบื้องต้นว่า อยากให้ สกศ.เป็นหน่วยงานที่นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับการศึกษาแล้วสังคมให้ความเชื่อถือ และหน่วยงานต่างๆ สามารถนำผลการศึกษาไปใช้ได้
เลขาธิการ สกศ. กล่าวว่า จากการรับนโยบายเบื้องต้น ตนได้วางยุทธศาสตร์การทำงานคร่าวๆ ว่า สกศ.ต้องทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแผนการศึกษาของชาติ ที่เป็นรูปธรรมและสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ตามยุทธศาสตร์ของชาติในอนาคตได้ โดยเรื่องใหญ่ที่ต้องทำ คือทำแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ 15 ปี(2560-2574)ทีต้องสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ และต้องจัดการศึกษาให้คนไทยทั้งประเทศ โดยแผนดังกล่าวต้องมีความชัดเจน ใน5 ปีแรกต้องรู้ว่าจะทำอะไร รวมถึงในปีต่อๆไปด้วย และต้องให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วม มากำหนดเป้าหมายด้วยกัน
และเนื่องจาก สกศ.ต้องทำหน้าที่เป็นเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษา ที่มี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ก็จะเตรียมการนำข้อเสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และ คณะกรรมนโยบายและพัฒนาการศึกษา (ซูเปอร์บอร์ดการศึกษา) มาประมวลว่าต้องปฏิรูปเรื่องใดก่อนและหลัง รวมถึงต้องเร่งดำเนินการจัดทำร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายการศึกษาและพัฒนามนุษย์แห่งชาติ ที่จะแปรสภาพจากซูเปอร์บอร์ดปัจจุบัน เป็นซูเปอร์บอร์ดใหม่ด้วย
"ต่อไป สกศ.ต้องทำหน้าที่เป็นองค์กรที่เป็นคลังสมองด้านการศึกษาของประเทศ เช่น เป็นศูนย์ข้อมูล สถิติทางการศึกษา มีข้อมูลที่เป็นการรายงานสภาวะการศึกษาไทย ที่ต้องมีรายงานเป็นระยะ เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที ขณะเดียวกันต้องมีข้อเสนอแนะจากการวิจัยการศึกษา หรืองานต่างๆ เพื่อให้สามารถนำไปทำแผนการศึกษาได้ด้วย"ดร.กมล กล่าว
ที่มา สยามรัฐ วันที่ 1 ตุลาคม 2558