พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยพลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนผู้บริหารฝ่ายการเมือง และผู้บริหารองค์กรหลัก ร่วมประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ครั้งที่ 18/2558 เมื่อวันพุธที่ 23 กันยายน 2558 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ โดยมีประเด็นสำคัญ สรุปดังนี้
พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา มีประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้
- โครงการศูนย์กลางแอปพลิเคชั่นภาครัฐ (Government Application Center) ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมแอปพลิเคชั่นของภาครัฐ ที่ทุกกระทรวงจะต้องเชื่อมโยงกันในภาพรวม โดยในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการนั้น ที่ประชุมมอบให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เรียกประชุมทุกหน่วยงานเพื่อคัดเลือกแอปพลิเคชั่นของกระทรวงศึกษาธิการ รวบรวมส่งให้สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สรอ.) ต่อไป
- การจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริตเกิดขึ้น
- นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ประเด็นนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้แจ้งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบแนวทางการบริหารจัดการเวลาเรียน ตามนโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ (Moderate Class More Knowledge)" ซึ่งที่ประชุม ครม.ขอให้การจัดประชุมสัมมนาผู้แทนหน่วยงานและองค์กรที่จะร่วมจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับเด็กนักเรียนและสถานศึกษา ในวันจันทร์ที่ 28 กันยายนนี้ ให้กระทรวง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทเอกชนที่จัดทำโครงการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร (CSR) เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ส่วนโรงเรียนเอกชน/กรุงเทพมหานคร ที่จะเข้าร่วมโครงการด้วยนั้น ควรพิจารณาคัดเลือกตามสัดส่วนที่เหมาะสม และจากนี้จะมอบให้พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ ขับเคลื่อนการปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวต่อไป
- นโยบายการศึกษาที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบต่อไป ในเร็วๆ นี้ คือ นโยบายเกี่ยวกับการอาชีวศึกษา และนโยบายการยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในทุกหลักสูตร ตามลำดับ
- การแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา โดยจะมีการประชุมบูรณาการระดับกระทรวง ซึ่งรัฐมนตรีจากกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงยุติธรรมจะเข้าร่วมประชุมเอง เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างจริงจังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ต่อไป
- งบกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้รับจัดสรรประมาณ 5,600 ล้านบาทนั้น มอบให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณาให้ทุกหน่วยงานดำเนินงานตามโครงการที่ทำให้เกิดการจ้างงาน พร้อมทั้งกำกับติดตามการใช้งบประมาณให้โปร่งใส ทันเวลา และมี Outcome ที่ชัดเจน
นอกจากนี้ รมว.ศึกษาธิการ ให้นโยบายและแนวทางการทำงานเพิ่มเติม ดังนี้
- การพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมอบปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการรวบรวมกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของทุกองค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับ
- การสรุปรวบรวมและติดตามงานตามข้อเสนอของคณะบุคคลต่างๆ ที่มาพบรัฐมนตรี แม้จะไม่สามารถดำเนินการตามข้อเสนอต่างๆ ได้ครบถ้วน แต่อาจนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอบางประเด็นไปพิจารณาปรับใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศปข.ศธ.) จะมีส่วนสำคัญต่อการพิจารณาข้อเสนอ และติดตามงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- การรับสมัครครูผู้ช่วย ที่ประชุมรับทราบการรับสมัครสอบครูผู้ช่วย สพฐ. ซึ่งผู้สมัครต้องมีใบประกอบวิชาชีพครูหรือใบแทน แต่การจะบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูตำแหน่งครูผู้ช่วย จะต้องมีใบประกอบวิชาชีพครู
- รวบรวมข้อมูลการประกวดหรือการรับรางวัลต่างๆ ต้องการให้รวบรวมข้อมูลการประกวดหรือการรับรางวัลจากการที่หน่วยงานต่างๆ จัดขึ้น อาทิ สกสค./สพฐ./สป./คุรุสภา/หน่วยงาน/องค์กรหลัก เพื่อเป็นข้อมูลในการแยกประเภท ความมุ่งหมาย เพื่อวางแผนจัดระบบการประกวดต่างๆ ให้ทรงคุณค่า มีมาตรฐาน โดยมอบให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสนอภายในเดือนกันยายนนี้
- การให้ความสำคัญกับการไปเข้าร่วมประชุม ทั้งกรณีการรับเสด็จในงานพระราชพิธีต่างๆ รวมทั้งการที่หน่วยงานต่างๆ เชิญไปเป็นประธานเปิดงาน ซึ่งหากติดภารกิจสำคัญ อาจมอบหมายให้ผู้อื่นไปแทน และควรประสานงานกับผู้จัด รวมทั้งการให้เกียรติเจ้าภาพจัดงาน นอกจากนี้การส่งผู้แทนหน่วยงานไปเข้าร่วมประชุมสัมมนาทั้งภายในและภายนอกกระทรวง ควรตระหนักถึงความสำคัญของการประชุมนั้นๆ และจัดเตรียมข้อมูลล่วงหน้าในการเข้าร่วมประชุมด้วย
- การพิจารณาคัดเลือกบุคคลเพื่อเลื่อนระดับตำแหน่งที่สูงขึ้น ที่ประชุมเห็นชอบการเปิดโอกาสให้บุคลากรทุกคน ทุกระดับ ในกระทรวงศึกษาธิการ มีสิทธิ์ในการสมัครสอบหรือคัดเลือกเพื่อเลื่อนระดับตำแหน่งได้อย่างเท่าเทียมกัน (Open) โดยไม่ล็อคสเปคเฉพาะบุคลากรของหน่วยงานตนเองเท่านั้น โดยให้ถือเรื่องนี้เป็นนโยบาย นอกจากนี้การจ้างผู้เชี่ยวชาญของหน่วยงานต่างๆ ควรเกิดประโยชน์และตรงกับสิ่งที่หน่วยงานนั้นต้องการจริง
พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ที่มี 8 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น ย้ำว่าทุกหน่วยงานควรให้ความสำคัญกับการประชุมนี้ เพราะเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยให้ผู้แทนระดับสูงของแต่ละหน่วยงานเข้าร่วมประชุมเอง เพื่อเร่งรัดดำเนินการตามนโยบายซึ่งกำหนดไว้ 68 โครงการให้เป็นรูปธรรม
เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะต้องเร่งรัดโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมให้เกิดผลสำเร็จ และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะมีการจัดตั้งวิทยาลัยอาชีวศึกษาในระดับอำเภอที่เป็นความต้องการของชุมชน โดยในปี 2559 นี้มีการกำหนดงบประมาณในการจัดตั้งไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจำนวน 5 แห่ง และจะพยายามจัดตั้งเพิ่มในปีต่อๆ ไป ส่วนสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) จะเร่งรัดการดำเนินโครงการติวเข้มเติมความรู้ ผ่านสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาและสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นการจัดการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจนอย่างมาก
ทั้งนี้ ได้เร่งรัดให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามภารกิจในรอบ 3 เดือน คือ เดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2558 ให้ได้ร้อยละ 50 และดำเนินการให้ได้ร้อยละ 75 ในเดือนมกราคม 2559 โดยให้ผลการดำเนินงานมีคุณภาพ เป็นไปตามกรอบเวลา และงบประมาณที่กำหนด
นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวแนะนำทีมงานของ รมช.ศึกษาธิการ คือ นายไมเคิล เดวิด เซลบีย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานในบริษัทชั้นนำในไทยและต่างประเทศ เพื่อนำการบริหารงานที่เป็นสากล มาใช้ในกระทรวงศึกษาธิการด้วย
สำหรับผู้บริหารฝ่ายการเมืองที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ อาทิ นายโยธิน มูลกำบิล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, พลเอกสุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายไมเคิล เดวิด เซลบีย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, พันเอกณัฐพงษ์ เพราแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, พันเอกรัตนะโชติ อ่างทอง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, หม่อมหลวงปริยดา ดิศกุล ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ.
ที่มา กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 23 กันยายน 2558