ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


Advertisement

ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"หั่นเนื้อหา" สอดรับ"ลดเวลาเรียน" หดชั่วโมงประถม-ม.ต้น 22 และ 27ชม.ต่อสัปดาห์


ข่าวการศึกษา 23 ก.ย. 2558 เวลา 14:01 น.

8,548

views
Advertisement

"หั่นเนื้อหา" สอดรับ"ลดเวลาเรียน" หดชั่วโมงประถม-ม.ต้น 22 และ 27ชม.ต่อสัปดาห์

 ’หั่นเนื้อหา’สอดรับ’ลดเวลาเรียน’หดชั่วโมงประถม-ม.ต้น22และ27ชม.ต่อสัปดาห์/เผย13กิจกรรมสร้างเด็ก’3H’

ศธ.เผยแผนลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ หั่นเนื้อหาที่ไม่จำเป็น หดชั่วโมงเรียนระดับประถมเรียนไม่เกิน 22 ชม./สัปดาห์ มัธยมต้นไม่เกิน 27 ชม./สัปดาห์ แต่ยันต้องไม่กระทบการทำข้อสอบโอเน็ต ส่วนกิจกรรมแบ่งเป็น 13 หมวด เน้นตอบโจทย์ "3 H" Head-Heart-Hands

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพียงแต่จะมีการปรับปรุงลดเนื้อหาส่วนที่ไม่จำเป็นในแต่ละรายวิชา และจะต้องไม่กระทบกับตัวบ่งชี้ที่ใช้ในการออกข้อสอบทั้งของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ที่จัดสอบการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 และการสอบประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือเอ็นที ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)

ในส่วนของโครงสร้างเวลาเรียนของประถมศึกษาจากเดิมที่เรียน 1,200-1,400 ชม./ปี หรือ 30-35 ชม./สัปดาห์ เปลี่ยนเป็นเรียนไม่เกิน 1,000 ชม./ปี ซึ่งจะมีการจัดการเรียนการสอนที่อยู่ในห้องเรียน 22 ชม./สัปดาห์ และจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะผู้เรียน 8-13 ชม./สัปดาห์ และในส่วนของมัธยมศึกษาตอนต้น ที่เดิมที่เรียน 1,400 ชม./ปี หรือ 35 ชม./สัปดาห์ ปรับเป็นเรียนไม่เกิน 1,200 ชม./ปี ซึ่งจะมีการเรียนการสอนในห้องเรียน 27 ชม./สัปดาห์ และจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะผู้เรียน 8 ชม./สัปดาห์ ขณะนี้มีโรงเรียนที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมแล้วกว่า 2,948 โรง แบ่งเป็น สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษา (สพม.) จำนวน 32 เขต มีทั้งหมด 346 โรง สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษา (สพป.) จำนวน 137 เขต มีทั้งหมด 2,602 โรง

พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 หมวด มีทั้งหมด 13 กิจกรรม หมวดที่ 1 คือ สร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้ มีกลุ่มกิจกรรม ได้แก่ การพัฒนาความสามารถด้านการศึกษา การพัฒนาความสามารถด้านการคิดและการพัฒนากรอบความคิดแบบเปิดกว้าง การพัฒนาความสามารถด้านการแก้ปัญหา การพัฒนาความสามารถด้านการใช้เทคโนโลยี การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ หมวดที่ 2 คือ สร้างเสริมคุณลักษณะและค่านิยม มีกลุ่มกิจกรรม ได้แก่ ปลูกฝังค่านิยมและจิตสำนึกการทำประโยชน์ต่อสังคม มีจิตสาธารณะ และการให้บริการด้านต่างๆ ทั้งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและต่อส่วนรวม ปลูกฝังความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม (มีวินัย ซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ อดทน มุ่งมั่นในการทำงาน กตัญญู) ปลูกฝังและสร้างภาคภูมิใจในความเป็นไทย หมวด 3 คือ สร้างเสริมทักษะการทำงาน การดำรงชีพ และทักษะชีวิต มีกลุ่มกิจกรรม ได้แก่ การตอบสนองความสนใจ ความถนัด และความต้องการของผู้เรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึกการทำงาน ทักษะทางอาชีพ และอยู่อย่างพอเพียง การพัฒนาความสามารถด้านการใช้ทักษะชีวิต การเสริมสร้างสมรรถนะทางกาย

รมว.ศธ.อธิบายต่อว่า รูปแบบกิจกรรมทั้งหมดจะมีเมนูย่อยๆ ลงไปอีก และอาจจะมีเพิ่มจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นต้น ซึ่งจะหารือร่วมกันในวันที่ 28 กันยายนนี้ โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ จะต้องตอบโจทย์ทำให้ผู้เรียนมีเฮด ฮาร์ต และแฮนด์ รู้จักใช้สมองคือ ความคิด มีหัวใจ คือจริยธรรมและทัศนคติที่ถูกที่ควร และมีมือ คือฝึกให้มีทักษะ ซึ่งแนวทางนี้สอดคล้องกับแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เน้นในเด็กต้องเรียนรู้ใน 4 ด้าน คือ พุทธิศึกษา จริยศึกษา หัตถศึกษา และพลศึกษา

"เชื่อว่าหากเด็กมีทั้งหมดนี้จะทำให้การจัดการศึกษามีความสมบูรณ์"

รมว.ศธ.กล่าว และว่า จากนี้จะมีการเร่งอบรมครูผู้สอนและจัดสมาร์ทเทรนเนอร์ 300 ทีม ไปดูแลโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ 1 ทีมต่อ 10 โรงเรียน และจะมีการประเมินการจัดการเรียนการสอนระหว่างภาคเรียน จำนวน 2 ครั้ง และหลังปิดภาคเรียนอีก 1 ครั้ง หากประสบความสำเร็จจะขยายเพิ่มไปในโรงเรียนอื่นๆ ต่อไป โดยนโยบายนี้ไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่ม เพราะ สพฐ.สามารถดำเนินการได้โดยใช้งบปกติ.

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 23 กันยายน 2558

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

แนวทางการบริหารจัดการ เวลาเรียน "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


"หั่นเนื้อหา" สอดรับ"ลดเวลาเรียน" หดชั่วโมงประถม-ม.ต้น 22 และ 27ชม.ต่อสัปดาห์หั่นเนื้อหาสอดรับลดเวลาเรียนหดชั่วโมงประถม-ม.ต้น22และ27ชม.ต่อสัปดาห์

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

สพฐ.มีคำสั่งแต่งตั้ง รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รายใหม่ จำนวน 60 ราย

สพฐ.มีคำสั่งแต่งตั้ง รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รายใหม่ จำนวน 60 ราย

เปิดอ่าน 16,420 ☕ 26 ธ.ค. 2568

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สพฐ.กำชับเรื่องการนำนักเรียนมาทำคอนเทนต์ทางออนไลน์
สพฐ.กำชับเรื่องการนำนักเรียนมาทำคอนเทนต์ทางออนไลน์
เปิดอ่าน 1,689 ☕ 29 ธ.ค. 2568

สพฐ. ออกหนังสือด่วนที่สุด! กำชับมาตรการความปลอดภัยช่วงปีใหม่ เน้นย้ำวินัยจราจร-เฝ้าระวังเด็กจมน้ำ พร้อมเปิดโรงเรียนให้บริการห้องสุขาแก่ประชาชน
สพฐ. ออกหนังสือด่วนที่สุด! กำชับมาตรการความปลอดภัยช่วงปีใหม่ เน้นย้ำวินัยจราจร-เฝ้าระวังเด็กจมน้ำ พร้อมเปิดโรงเรียนให้บริการห้องสุขาแก่ประชาชน
เปิดอ่าน 520 ☕ 29 ธ.ค. 2568

ด่วนที่สุด! การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปี พ.ศ.2569
ด่วนที่สุด! การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปี พ.ศ.2569
เปิดอ่าน 15,868 ☕ 26 ธ.ค. 2568

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 9 ราย (17 ธันวาคม 2568)
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 9 ราย (17 ธันวาคม 2568)
เปิดอ่าน 17,437 ☕ 26 ธ.ค. 2568

"ศ.ดร.นฤมล" มอบคุรุสภา-อว.หาสาเหตุการทดสอบและประเมินสมรรถะทางวิชาชีพครูฯหลังพบผลสอบผ่านเพียง 14% สอบตก 85%
"ศ.ดร.นฤมล" มอบคุรุสภา-อว.หาสาเหตุการทดสอบและประเมินสมรรถะทางวิชาชีพครูฯหลังพบผลสอบผ่านเพียง 14% สอบตก 85%
เปิดอ่าน 1,548 ☕ 26 ธ.ค. 2568

ก.ค.ศ.เปิดทางครูใช้รางวัลระดับชาติ-นานาชาติ ขอเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษได้
ก.ค.ศ.เปิดทางครูใช้รางวัลระดับชาติ-นานาชาติ ขอเลื่อนวิทยฐานะเชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษได้
เปิดอ่าน 930 ☕ 26 ธ.ค. 2568

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ทำไมสัตวแพทย์ต้องดึงหนังระหว่างหัวไหล่ของสุนัข
ทำไมสัตวแพทย์ต้องดึงหนังระหว่างหัวไหล่ของสุนัข
เปิดอ่าน 12,738 ครั้ง

ฝังรากฟันเทียม: ฟันแท้ที่สองของคุณ ใช้งานได้นานเป็นธรรมชาติ
ฝังรากฟันเทียม: ฟันแท้ที่สองของคุณ ใช้งานได้นานเป็นธรรมชาติ
เปิดอ่าน 1,225 ครั้ง

ความลับของ ลูกแพร์หน้าทารก ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตจีน
ความลับของ ลูกแพร์หน้าทารก ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตจีน
เปิดอ่าน 13,978 ครั้ง

กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต
กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต
เปิดอ่าน 12,037 ครั้ง

6 ท่าฟิต&เฟิร์ม ระบบประสาท สมอง
6 ท่าฟิต&เฟิร์ม ระบบประสาท สมอง
เปิดอ่าน 12,432 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ