สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 15 กันยายน 2558 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ เห็นชอบโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาด้านการศึกษาและด้านการสาธารณสุข เห็นชอบแต่งตั้งพันเอก ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
เห็นชอบโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา-สาธารณสุข ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหม (กรมราชองครักษ์) เสนอโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยให้สมุหราชองครักษ์ หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากสมุหราชองครักษ์ เป็นผู้ลงนามในบันทึกความตกลงโครงการพระราชทานฯดังกล่าวทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านการศึกษาและด้านการสาธารณสุข และให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายสนับสนุนการดำเนินการ เรื่องการก่อสร้างการซ่อมแซม การปรนนิบัติบำรุง การพัฒนาบุคลากร หลักสูตรการศึกษา และตำรา ฯลฯ ตามที่คณะกรรมการและผู้ที่เกี่ยวข้องตามโครงการพระราชทานฯ ที่กรมราชองครักษ์มีคำสั่งแต่งตั้งได้ร้องขอ โดยการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามระเบียบปฏิบัติของราชการต่างๆ โดยอนุโลม
สาระสำคัญของเรื่อง โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา และด้านการสาธารณสุข ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ (24 เม.ย. 2544) มีผลการดำเนินการสรุปได้ ดังนี้
1. โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันตามความตกลงโครงการและแผนงานจนได้รับคำชมเชยจาก ฯพณฯ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโซ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าเป็นความช่วยเหลือที่ดียิ่ง และปราศจากการต้องการสิ่งตอบแทน ซึ่งเป็นคุณอเนกอนันต์ต่อชาวกัมพูชา ทำให้เยาวชนชาวกัมพูชาได้มีโอกาสรับพระราชทานทุนการศึกษา มาศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง จนถึงระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิตในประเทศไทย รวม 1,088 ทุน และเดินทางกลับกัมพูชา เพื่อรับราชการและประกอบกิจการส่วนตัว รวม 400 คน จึงขอพระราชทานขยายเวลาโครงการออกไปอีกเป็นเวลา 5 ปี (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 – 30 กันยายน 2564)
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการฯ กัมพูชา ได้ขอพระราชทานจัดตั้งสถานศึกษาแห่งใหม่ที่จังหวัดกำปงสปือ ซึ่งทรงมีพระราชวินิจฉัยเห็นชอบ และโปรดให้คณะกรรมการด้านการศึกษา (ไทย และกัมพูชา) ไปดำเนินการจัดหาสถานที่ก่อสร้าง แผนการพัฒนาบุคลากรครู แผนการศึกษา ซึ่งคณะกรรมการทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันดำเนินการมา ปัจจุบันนี้ได้จัดหาสถานที่ก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ณ จังหวัดกำปงสปือ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีพื้นที่ 1,200 ไร่ (200 เฮกตาร์)
2. โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านสาธารณสุข ได้ดำเนินการตามแผนและข้อตกลงฉบับสุดท้ายที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2558 โดยได้คัดเลือกสรรหาเยาวชนในจังหวัดรัตนคีรี มณฑลคีรี เพื่อรับทุนพระราชทานไปศึกษาต่อในประเทศไทยหลักสูตรต่างๆ ด้านสาธารณสุข อาทิ ผู้ช่วยพยาบาลและพยาบาล รวมถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเพื่อปรับฐานความรู้ก่อนเข้ารับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา โดยเน้นที่วิชาการด้านสาธารณสุขเป็นสำคัญ ฯลฯ เพื่อให้กลับมาเป็นกำลังสำคัญในถิ่นกำเนิดของตนเอง และการอบรมระยะสั้นๆ ในด้านการสาธารณสุขในท้องถิ่นหลายหลักสูตรหลายวิชา
ทำให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเห็นความสำคัญและตรงความต้องการของชาวกัมพูชา จึงได้ขอพระราชทานขยายเวลาออกไปอีก 5 ปี (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 – 30 กันยายน 2564) ด้วยเหตุผลเดียวกันกับด้านการศึกษาคือผลสัมฤทธิ์ที่ดียิ่ง และตรงความต้องการของชาวกัมพูชา
เห็นชอบแต่งตั้งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง พันเอก ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2558 เป็นต้นไป
เห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายอนุสรณ์ ฟูเจริญ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล และนายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง และมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป
ที่มา กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 15 กันยายน 2558