คอลัมน์ สถานี ก.ค.ศ.
คนเราจะเป็นมนุษย์ผู้มีใจสูงกว่าสัตว์ทั้งหลายได้นั้น ต้องผ่านการทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าจะอดกลั้นหรืออดทนต่อสิ่งยั่วยุอารมณ์ทั้งหลาย หรือมีโอกาสกระทำผิดแล้วอดกลั้นต่อสิ่งนั้นๆ ได้หรือไม่ หากอดรนทนไม่ได้ ไปกระทำผิดขึ้น ความผิดนั้นย่อมมีโทษทั้งหนักและเบาตามแต่กรรมหรือผลของการกระทำนั้นตอบสนอง ลองมาศึกษาชีวิตของผู้อำนวยการสถานศึกษาท่านหนึ่ง
นายทองได้เดินทางโดยสารรถปรับอากาศของ บขส.เพื่อกลับบ้านต่างจังหวัด พอดีได้นั่งใกล้ลาวัลย์ เด็กสาวนักเรียนม.ปลายคนหนึ่ง หน้าตาจิ้มลิ้มแบบสาววัยรุ่นสไตล์เกาหลี ไว้ผมหน้าม้าน่ารักน่าชัง ถูกอัธยาศัยยิ่งนัก จึงสอบถามว่า “หนูเดินทางไปไหนมา” เด็กตอบว่า “ไปสอบโควต้าพิเศษมหาวิทยาลัย.....ในกรุงเทพฯ กำลังกลับบ้านค่ะ คุณลุงล่ะคะเดินทางไปไหน..” ก็เป็นบทสนทนาทั่วๆ ไป สร้างความคุ้นเคยระหว่างเดินทาง แต่หลังเที่ยงคืนแล้วต่างก็เงียบและนอนหลับบนรถโดยสาร จนกระทั่งเวลาประมาณตีสอง เด็กสาวรู้สึกตัวว่ามีมือล้วงเข้าไปในกางเกงยีนส์และจับต้องลูบไล้ถูกอวัยวะสำคัญ จึงใช้มือหยิกและผลักออก และเข้าใจว่าเป็นมือของชายที่นั่งอยู่ข้างๆตน (ที่นั่ง 2D) จึงสะกิดเพื่อน รินใจ ที่นั่งข้างๆ (ที่นั่ง 2B) ให้ลุกไปบริเวณหน้าห้องน้ำท้ายรถคันดังกล่าว แล้วเล่าเรื่องให้ฟัง ซึ่งรินใจก็ให้การสอดคล้องกัน
นอกจากนี้ พนักงานต้อนรับบนรถโดยสารคันดังกล่าวก็ให้การว่าได้รับทราบเรื่องจากลาวัลย์ โดยแนะนำไม่ให้โวยวายและไม่ให้กลับไปนั่งเบาะเดิมอีกเลย ลาวัลย์เป็นเด็กที่มีลักษณะเป็นผู้ใหญ่ มีสติดี จึงโทรศัพท์บอกแม่ให้แจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อรถโดยสารจอดที่สถานีขนส่งจังหวัดปทุมธานี มีตำรวจมารอพบและควบคุมตัวนายทองไปยังสถานีตำรวจ นายทองปฏิเสธว่ามิได้กระทำการที่ถูกกล่าวหาโดยอ้างว่าอยู่ด้านขวามือติดหน้าต่าง และเป็นคนถนัดขวา เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้มือซ้างข้างที่ไม่ถนัดปลดกระดุมและรูดซิปกางเกงยีนส์ของเด็กสาวได้ โดยที่ผู้เสียหายไม่รู้สึกตัวและไม่โวยวาย จึงไม่อาจรับฟังได้
ถึงแม้จะไม่มีพยานบุคคลใดๆ พบเห็นการกระทำดังกล่าว แต่ในช่วงระยะเวลานั้น ต่างคนก็หลับใหล ไม่มีใครสนใจที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อสังเกตการกระทำของผู้ถูกกล่าวหา ข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่าข้าราชการครูรายนี้ที่ได้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้เรียนหรือนักศึกษา อันเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 94 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ซึ่งมีแนวพิจารณาโทษของ ก.ค.(เดิม) และก.ค.ศ. นำมาพิจารณาว่า หากเป็นการอนาจารละเมิดทางเพศผู้เยาว์ โดยกระทำต่ออวัยวะเพศ ถือว่าเป็นความผิดวิจัยอย่างร้ายแรง ระดับโทษ “ปลดออกจากราชการ”
หากไม่อยากรับโทษหนักเหมือนรายนี้ โปรดอย่าคิดว่าเป็นเด็กแล้วไม่มีอะไร เห็นเด็กน่ารักก็ต้องอดทน คิดว่าเป็นลูกเป็นหลาน อย่าให้จิตตกต่ำดังตัวอย่างข้างต้น มิฉะนั้นอาจต้องหาคดีอาญาย้ายไปอยู่ในคุกแทน (ครูบ้านนอกดอทคอม)
พบกันใหม่คราวหน้า สวัสดีครับ
คงพิสิฏฐ์ ไชยวงศ์
ผู้อำนวยการภารกิจเสริมสร้างและมาตรฐานวินัย สำนักงาน ก.ค.ศ.
ที่มา หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 24 สิงหาคม 2558