เมื่อวันที่ 6 กันยายน นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการตามนโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" โดยลดเรียนวิชาหลักลงถึงเวลา 14.00 น. จากนั้นให้ทำกิจกรรมเสริมทักษะการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับช่วงวัยจนถึงเวลาเลิกเรียน 16.00 น. โดยจะเริ่มนำร่องใน 3,500 โรงเรียน ว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดทำคู่มือการบริหารจัดการเรื่องการลดเวลาเรียนและตัวอย่างตารางสอน เพื่อให้โรงเรียนนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคู่มือดังกล่าวจะมีตัวอย่างกิจกรรมที่รวบรวมจากโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 100 กิจกรรม ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบกิจกรรมหลักใน 4 รูปแบบ คือ
1.กิจกรรมที่จัดตามวิชาหลัก อาทิ การทดลองในวิชาวิทยาศาสตร์
2.เปิดชมรมเลือกเสรี กีฬา ดนตรี ศิลปะ
3.สอนการบ้านหรือสอนเสริม และ
4.สอนอาชีพและภูมิปัญญาท้องถิ่น
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ในคู่มือจะมีเงื่อนไขและแนวปฏิบัติในการดำเนินการที่ชัดเจน ซึ่งจะมีมาตรการป้องกันดูแลความปลอดภัยในช่วงจัดกิจกรรม ไม่ให้เด็กหนีกลับก่อนเวลาเลิกเรียนอย่างเด็ดขาด ถ้าผู้ปกครองจะให้เด็กกลับบ้านก่อนเวลา ต้องขออนุญาตจากทางโรงเรียนรวมถึงบอกเหตุผลความจำเป็น ซึ่งหลักๆ ที่โรงเรียนสามารถอนุญาตให้เด็กกลับบ้านได้ อาทิ กลับไปช่วยทำงานที่บ้าน กลับไปดูแลญาติที่เจ็บป่วย หรือขอกลับก่อนเป็นบางวันกรณีที่ ผู้ปกครองไม่สะดวกมารับ แต่ถ้าขอกลับเพื่อไปติวหรือไปเรียนพิเศษนอกโรงเรียน สพฐ.จะไม่อนุญาต เป็นเรื่องที่ไม่สนับสนุนและไม่สามารถดำเนินการได้เด็ดขาด
"สัปดาห์นี้ผมจะเสนอคู่มือและรูปแบบการจัดกิจกรรมให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. และ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. พิจารณา หากให้ความเห็นชอบ สพฐ.จะไปปรับราย
หนังสือพิมพ์มติชนรายวันละเอียดในคู่มือให้สมบูรณ์ก่อนจัดพิมพ์ จำนวน 35,000 เล่ม เพื่อแจกให้โรงเรียนนำร่อง 3,500 โรงเรียน รวมถึงจะนำขึ้นเว็บไซต์ สพฐ.เพื่อให้ครูหรือผู้ปกครองที่สนใจเข้ามาดูตัวอย่างรูปแบบกิจกรรมที่ สพฐ.จัดทำไว้ และหากใครมีกิจกรรมที่ดี ก็สามารถเสนอความคิดเห็นเข้ามาได้โดยตรง ขณะเดียวกันในสัปดาห์นี้คิดว่าเขตพื้นที่ฯน่าจะส่งรายชื่อโรงเรียนที่มีความพร้อมในการนำร่องมาให้ สพฐ.พิจารณา จากนั้นจะเตรียมการจัดอบรมพัฒนาครูให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ตุลาคม เพื่อให้ครูได้เตรียมพร้อมจัดการเรียนการสอนได้ทันเปิดภาคเรียนที่ 2/2558" นายกมลกล่าว
ที่มา มติชน ฉบับวันที่ 8 ก.ย. 2558 (กรอบบ่าย)