คณะกรรมาธิการปฏิรูปการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สภาปฏิรูปแห่งชาติ นำโดยนายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมาธิการฯ เข้าหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อเสนอแนวทางการจัดการศึกษา กับรัฐมนตรีและผู้บริหาร 5 องค์กรหลัก กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 ที่กระทรวงศึกษาธิการ
นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา กล่าวว่า ได้นำตัวแทนคณะกรรมาธิการฯ 15 ท่านจากกรรมาธิการทั้งหมด 27 ท่าน เข้าพบ พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และนายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อส่งมอบพิมพ์เขียว (Blueprint) การศึกษาที่คณะกรรมาธิการใช้เวลากว่า 9 เดือน ไปรับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศ ซึ่งมีข้อเสนอที่น่าสนใจหลายเรื่อง เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการนำไปขับเคลื่อนและเลือกทำ โดยคณะกรรมาธิการฯ แม้จะหมดวาระลงในวันที่ 6 กันยายนนี้ แต่พร้อมจะช่วยรัฐบาลและการปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ประเด็นที่คณะกรรมาธิการเสนอและหารือในครั้งนี้มีหลายเรื่อง แต่ข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาในพิมพ์เขียวมี 3 เรื่องสำคัญ คือ การปฏิรูประบบการจัดการศึกษา การปฏิรูประบบการคลังด้านการศึกษาและด้านอุปสงค์ และการปฏิรูประบบการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการกำลังดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน แต่ก็ได้บอกคณะกรรมาธิการฯ ช่วยคิดว่า ปัญหาหรือข้อมูลที่เสนอมานั้น ทำไมต้องทำเรื่องนั้นๆ และข้อเสนอแต่ละหัวข้อ มองเห็นปัญหาอะไรบ้าง และควรจะทำอย่างไร เพื่อกระทรวงศึกษาธิการจะได้นำมาพิจารณาต่อไป
"สำหรับข้อเสนอดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของพิมพ์เขียว
ข้อเสนอการปฏิรูปประเทศ โดยยึดวิสัยทัศน์ประเทศไทยในปี 2575
คือ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน"
ซึ่งเน้นคนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของการปฏิรูป"
โดยมีเป้าหมายพัฒนาคนไทยให้เป็นคนที่สมบูรณ์ อยู่ดี มีสุข เป็นพลเมืองที่ตื่นรู้ปรับตัวเองเข้ากับสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลง และเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งมีคุณสมบัติช่วยสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันของชาติ โดยต้องการให้ตัวบ่งชี้ในปี 2575 จากการปฏิรูปตามพิมพ์เขียวนี้ เพื่อให้มีอัตราคนว่างงานบวกเงินเฟ้ออยู่ในระดับ 1-3 ที่ดีที่สุดของโลก มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาไทยอยู่ในลำดับที่ 2 ของอาเซียน และลำดับที่ 1-5 ของเอเชีย มีนวัตกรรมของไทยอยู่ในลำดับ 1 ใน 5 ของเอเชีย และค่าคะแนนการไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบสูงกว่า 60 ใน 100 คะแนน
หลักสำคัญที่เสนอในพิมพ์เขียวนี้มีหลายเรื่อง แต่ที่สำคัญคือวาระการปฏิรูปการศึกษา 3 เรื่องสำคัญ คือ 1) ปฏิรูประบบการจัดการศึกษา 2) ปฏิรูประบบการคลังด้านการศึกษา ด้านอุปสงค์ 3) ปฏิรูประบบการเรียนรู้ ดังนี้
ปฏิรูประบบการจัดการศึกษา โดยเน้น 5 ด้าน คือ 1) ปฏิรูปนโยบายการจัดการศึกษาและการจัดองค์กรในระบบการศึกษา ที่เน้นการกระจายอำนาจการจัดการสถานศึกษา การมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน 2) ปฏิรูปการเตรียมการผู้เข้าเรียน 3) ปฏิรูปการบริหารบุคลากรทางการศึกษา ทั้งการผลิต ปรับปรุงพัฒนา การประเมินผล และสร้างระบบคุณธรรมของบุคลากร 4) ปฏิรูประบบธรรมาภิบาลการจัดการศึกษา 5) ปฏิรูประบบการประกันคุณภาพการศึกษา
ปฏิรูปการคลังด้านการศึกษาฯ โดยเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการจัดสรรงบประมาณเพื่อการศึกษา โดยการจัดสรรงบประมาณเพื่อการศึกษา การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน การมีส่วนร่วมของประชาสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชน มีการจัดทำระบบคูปองการศึกษาโดยจัดสรรให้แก่ผู้เรียนนำไปจ่ายให้แก่สถานศึกษาด้านอุปสงค์ตรงตามระดับการศึกษา มีการจัดสรรงบดำเนินการที่ต้องการเพิ่มพิเศษเพื่อจัดสรรงบประมาณให้แก่ผู้เรียนที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เพียงพออย่างมีคุณภาพและตามความเป็นจริง
ปฏิรูประบบการเรียนรู้ โดยปฏิรูปหลักสูตในการเรียนการสอนทุกระดับให้เหมาะสมและทันสมัยทั้งหลักสูตรแกนกลาง หลักสูตรตามภูมิสังคม และหลักสูตรเฉพาะ รวมทั้งมีวิธีการจัดการเรียน เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักคิดด้วยเหตุและผล หาความรู้ได้ด้วยตนเอง ทั้งการเรียนในห้องเรียน การเรียนจากกิจกรรม การเรียนรู้ชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม และการฝึกทักษะ ตลอดจนปฏิรูปวิธีการวัดผล เพื่อสะท้อนถึงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา ทั้งการวัดความรู้ร่วม การวัดความรู้เฉพาะ การวัดทักษะ และการวัดผลการจัดการศึกษา โดยวัดผลจากการทำงานของผู้ที่จบไปแล้ว อีกทั้งควรมีการปฏิรูปการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ที่สถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัยควรเน้นสร้างความรู้ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเสริมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น"
ที่มา กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 5 กันยายน 2558