พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2558 เมื่อวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2558 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ
การพิจารณาการประเมินวิทยฐานะ ตามเกณฑ์ ว7/2558
นายแพทย์กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การประชุม ก.ค.ศ.ครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งแรกของพลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ซึ่งได้พิจารณาประเด็นการขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement : P.A.) ตามหลักเกณฑ์ ว7/2558 ลงวันที่ 11 พ.ค.2558 ซึ่งเป็นการประเมินที่ไม่ยึดติดกับผลงานทางวิชาการ แต่จะดูจากผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนเป็นหลัก
โดยแต่เดิมหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมี 2 ขั้นตอนด้วยกัน ขั้นตอนแรกคือการกลั่นกรองด้วยการทดสอบวัดความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎีต่างๆ เกี่ยวกับการศึกษา โดยใช้กรอบในการวัดคือ ความจำ ความเข้าใจ การนำไปใช้ การวัดการวิเคราะห์ ประเมินค่า และสร้างสรรค์ ส่วนขั้นตอนที่สองจะดูจากการประเมินประสบการณ์วิชาชีพ ซึ่งก็คือผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนเป็นหลัก
ในส่วนขั้นตอนของการทดสอบนั้น ที่ประชุมได้พิจารณารายละเอียดต่างๆ แล้ว เห็นว่าอาจจะทำให้ครูที่มีความรู้ มีประสบการณ์ สอนเก่ง แต่ไม่ถนัดวิชาการสอบไม่ผ่าน จึงมีมติให้ชะลอการทดสอบตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวออกไปก่อน ซึ่งแต่เดิมจะเริ่มทำการทดสอบและประเมินตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน - 30 ตุลาคม 2558 และให้ตั้งคณะอนุกรรมการ ก.ค.ศ. วิสามัญเฉพาะกิจ โดยมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน เพื่อพิจารณาแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยต้องตอบโจทย์ใน 4 ประเด็นสำคัญ คือ
1) ควรเป็นการประเมินที่ลดภาระการสอนของครูโดยไม่ให้ครูทิ้งห้องเรียน 2) เป็นการประเมินที่มีมาตรฐานตรงกัน สามารถวัดจิตวิญญาณความเป็นครูได้ ซึ่งในส่วนนี้ที่ประชุมเห็นชอบให้ว่าที่ร้อยตรีอานนท์ สุขภาคกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 เป็นหัวหน้าคณะกรรมการหาตัวชี้วัดการประเมินครูด้านจิตวิญญาณ 3) ครูมีหลายลักษณะ จึงควรแยกประเภทครูให้ชัดและใช้วิธีการประเมินที่แตกต่างกันออกไป 4) เน้นผลสัมฤทธิ์การประเมินโดยให้วัดที่ตัวนักเรียนเป็นหลัก
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ตามเกณฑ์การประเมิน ว17/2552 ซึ่งเป็นการจัดทำผลงานทางวิชาการ และยังไม่ได้ยกเลิก จึงให้กลับไปดูว่าควรจะต้องยกเลิกหรือไม่
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ จะสรุปหลักเกณฑ์ต่างๆ ทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อเสนอให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป ในวันที่ 24 กันยายน 2558
แต่งตั้งอนุกรรมการผู้แทน ก.ค.ศ.
ที่ประชุมให้ความเห็นชอบตั้ง นางจินตนา มีแสงพราว รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นอนุกรรมการผู้แทน ก.ค.ศ. ใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แทนตำแหน่งที่ว่าง
นอกจากนี้ ให้ความเห็นชอบตั้งอนุกรรมการผู้แทน ก.ค.ศ. ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน 3 เขต แทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้
- นางดรุวรรณ บุญมาก เป็นอนุกรรมการผู้แทน ก.ค.ศ. ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม
- นายสุธี วัฒนวันยู เป็นอนุกรรมการผู้แทน ก.ค.ศ. ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 4
- นายโกศล ปราคำ เป็นอนุกรรมการผู้แทน ก.ค.ศ. ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 6
ที่ประชุมได้รับทราบผลการเลือกตั้ง นายเชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 เป็นกรรมการผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ใน ก.ค.ศ. สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แทนตำแหน่งที่ว่าง และให้ความเห็นชอบตั้ง นายเชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย เป็นอนุกรรมการ ใน อ.ก.ค.ศ. วิสามัญ และ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเฉพาะกิจ แทนตำแหน่งที่ว่างด้วย
รับทราบกำหนดการสอบแข่งขันครูผู้ช่วย สพฐ.
ที่ประชุมรับทราบกำหนดการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2558 ดังนี้
ประกาศสอบ ภายใน 7 กันยายน 2558
รับสมัครสอบ 14-20 กันยายน 2558
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ ภายใน 25 กันยายน 2558
สอบ ภาค ก 10 ตุลาคม 2558
สอบ ภาค ข 11 ตุลาคม 2558
สอบ ภาค ค 12 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป
ประกาศผลสอบ ภายใน 20 ตุลาคม 2558
ที่มา กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 1 กันยายน 2558